ศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนมติ กสทช.ที่สั่งพักใบอนุญาต-จอดำ"วอยซ์ทีวี"

ข่าวทั่วไป Wednesday February 27, 2019 18:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด เนื่องจากศาลฯเห็นว่า การออกอากาศรายการที่เป็นเหตุให้ กสทช.มีมติดังกล่าว ผู้ดำเนินรายการได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะและบุคคลสาธารณะตามสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน แม้มีการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ถึงขนาดเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งหรือสร้างความแตกแยกในราชอาณาจักร รวมทั้งไม่ปรากฏว่า กสทช.ได้เสนอว่าการออกรายการดังกล่าวเกิดความเสียหายร้ายแรงอย่างไร

โดยศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า ผู้ดำเนินรายการพิพาทได้เสนอข่าวสารในเชิงวิเคราะห์ทางการเมือง โดยผู้นำเสนอรายการจะรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวในขณะนั้นมาเรียบเรียงเนื้อหาและกำหนดรูปแบบวิธีการเสนอข่าวให้เป็นที่สนใจของประชาชน และมีการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ นโยบายของพรรคการเมือง ผู้นำพรรคการเมือง และผู้นำรัฐบาล และผู้ดำเนินรายการได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะและบุคคลสาธารณะตามสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน

อย่างไรก็ตาม แม้การแสดงความคิดเห็นของผู้ดำเนินรายการพิพาทจะมีเพิ่มเติมไปจากแหล่งข่าว รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ กสทช. กล่าวอ้าง แต่การกระทำดังกล่าวก็ยังฟังไม่ได้ถึงขนาดที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือผู้นำรัฐบาล

ทั้งนี้ก่อนการออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตของกสทช.ได้เชิญให้วอยซ์ทีวีได้มาชี้แจงก่อนแล้ว แต่กสทช.ไม่ได้สั่งการให้วอยซ์ทีวีดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่ได้ชี้ให้เห็นว่าการจัดรายการของวอยซ์ทีวีมีความเสียหายอย่างไร มติพักใช้ใบอนุญาตของกสทช.จึงไม่ชอบด้วยพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรทัศน์ฯ

นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า คดีนี้อธิบดีศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วน ตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ข้อ 49/2 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมตามระเบียบฯ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 นับเป็นคดีแรกที่ศาลปกครองได้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนตามระเบียบดังกล่าว ที่กำหนดให้อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนได้หากมีกฎหมายกำหนดเวลาการพิจารณาพิพากษาหรือเหตุอื่นใดที่การดำเนินกระบวนพิจารณาตามขั้นตอนปกติอาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังหรืออาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ