นาวอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปิดน่านฟ้าเหนือ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะเดินทางไปสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานและประเทศในแถบยุโรป อาทิ กรุงเทพ - ลอนดอน กรุงเทพ - มอสโคว กรุงเทพ - แฟรงก์เฟิร์ต กรุงเทพ - ปารีส กรุงเทพ - ซูริค กรุงเทพ - บลัสเซลส์ กรุงเทพ - โคเปนเฮเกน เป็นต้น ทำให้มีสายการบินขอยกเลิกเที่ยวบิน(CANCEL FLIGHT) ในระหว่างวันที่ 27 - 28 กุมภาพันธ์ 2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 13.00น.) แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 16 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 20 เที่ยวบิน โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบต้องขอกลับเข้ามาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (RETURN FLIGHT) จำนวน 3 เที่ยวบิน
ขณะที่มีผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการปิดน่านฟ้าเหนือปากีสถาน รวมประมาณ 4,900 คน ที่ตกค้าง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. โดยเป็นผู้โดยสารของสายการบินไทย และ สายการบินอีว่าแอร์
และขณะนี้ ทางสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายการบินไทยว่าจะสามารถกลับมาให้บริการเที่ยวบินตามตารางการบินที่เดินทางไปยุโรปในวันนี้ (28 ก.พ.) ได้ตามปกติแล้ว โดยเที่ยวบินตามตารางบินปกติได้ทยอยออกตามเวลาแล้ว
นายธีระ บัวศรี ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการบริการภาคพื้น บมจ. การบินไทย (THAI) และในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้โดยสารของการบินไทย ได้รับผลกระทบประมาณ 4,000 คน ซึ่งขณะนี้ได้พยายามจัดหาที่นั่งว่าง ส่งต่อไปยังสายการบินอื่น ๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสายการบินพันธมิตรในการอัพเกรดที่นั่งให้ โดยล่าสุด เหลือผู้โดยสารที่ตกค้างประมาณ 3,000 คน
ทั้งนี้ การบินไทยได้เตรียมแผนในการจัดเที่ยวบินพิเศษ ประมาณ 3 เที่ยวบิน สำหรับผู้โดยสารตกค้างของวันที่ 27 ก.พ. แต่เนื่องจากยังไม่สามารถขอทำการบินไปทางประเทศจีนได้ เพราะขณะนี้ เที่ยวบินหลายประเทศ ได้ขอบินผ่านไปทางนานฟ้าจีนเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง จีนได้ให้การบินไทยทำการบินผ่านน่านฟ้าจีน ไปยังยุโรป ในเที่ยวบินที่เป็นตารางบินปกติอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางปากีสถานมีการออก NOTAM ปิดน่านฟ้าจนถึงวันที่ 1 มี.ค. 06.59 น.ซึ่งพรุ่งนี้อาจจะมีข่าวดี รวมถึงการเจรจาเพื่อขอทำการบินเที่ยวบินพิเศษ กับปากีสถาน และน่านฟ้าของประเทศที่เป็นทางผ่านทั้งหมด ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วันในการจัดส่งผู้โดยสารที่ตกค้างได้หมด
สำหรับกรณี 4 เที่ยวบินที่ต้องบินกลับ จากที่ทำการบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปแล้วครึ่งทาง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นั้น มีผู้โดยสารประมาณ 800 คน ซึ่งบริษัทฯ ให้การดูแล จัดเข้าโรงแรมที่พัก แม้ว่าตามหลักเกณฑ์สากล กรณีเกิดเหตุ ทางการเมือง สายการบินจะไม่ต้องรับผิดชอบก็ตาม ทั้งนี้เรื่องจาก ผู้โดยสารเหล่านี้ได้ผ่านการตรวจวีซ่า ออกนอกเมืองไปแล้ว ดังนั้น เมื่อต้องรับกลับเข้ามาอีก จึงได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในการอนุญาตเข้าเมืองช่วงสั้นๆ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บ พาสปอร์ตของผู้โดยสารไว้