โฆษกกลาโหมยอมรับแถลงข่าวคลาดเคลื่อนกรณีปราสาทเขาพระวิหาร

          พล.ท.พิชษณุ ปุจฉาการ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า แถลงข่าวผิดกรณีที่ออกมาระบุว่าทางการกัมพูชาสร้างหลักฐานเท็จเกี่ยวกับหลักเขตแดนเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกซึ่งอาจทำให้ไทยเสียดินแดนบางส่วนไป
          เมื่อวานนี้หลังการประชุมสภากลาโหมเสร็จสิ้น พล.ท.พิชษณุ ได้ออกมาแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวหาว่า ทางการกัมพูชาพยายามเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ เห็นชอบการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารด้วยการสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จ และยังแสดงท่าทีข่มขู่ฝ่ายไทยว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งขั้นรุนแรงหากพยายามขัดขวาง
          นอกจากนี้ยังกำหนดท่าทีให้ประท้วงกัมพูชาอย่างเป็นทางการโดยอาศัยช่องทางการทูตและองค์กรระหว่างประเทศ, ประณามการกระทำของกัมพูชาที่เห็นประโยชน์ส่วนตนในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยลำพัง และรัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญเร่งด่วนเป็นวาระระดับชาติ
          โฆษกกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ซึ่งผู้นำทางทหารทุกระดับของทั้ง 2 ฝ่ายได้โทรศัพท์พูดคุยทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว
          ทั้งนี้ พล.ท.พิชษณุ ได้ร่วมชี้แจงข่าวดังกล่าวร่วมกับ พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกกองบัญชาการทหารสูงสุด และนายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ 
          ด้าน นายธฤต กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกได้ดำเนินการไปตามกลไกล โดยไทยจะไม่เสียดินแดนไปหากมีการขึ้นทะเบียนจริง 
          ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชานั้นเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี และมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดสถานการณ์รุนแรงถึงขั้นที่มีการบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 46