พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อมอบนโยบายและเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแผนการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกดูแลพี่น้องประชาชน โดยมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ด้านการถวายความปลอดภัยในพื้นที่พระราชพิธีและเส้นทางเสด็จ กำหนดแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบถวายความปลอดภัยสูงสุด โดยมีจุดคัดกรองควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ตามเส้นทางหลักให้มีผลกระทบน้อยที่สุดกับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ใช้กริยาวาจาที่สุภาพเหมาะสม
ด้านการรักษาความปลอดภัย ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน 3 พื้นที่ เพื่อรองรับประชาชนทั้งพื้นที่ชั้นในรอบพื้นที่พระราชพิธี พื้นที่ชั้นกลางรองรับประชาชนในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ชั้นนอกรองรับประชาชนจากปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานคร
ด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน จะกำหนดปิดการจราจรในเส้นทางเท่าที่จำเป็นเฉพาะช่วงเวลาและจะเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงโดยรอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดแนะนำ
พร้อมกันนี้ได้จัดรถโดยสารบริการรับส่งประชาชน จากจุดจอดรถเข้ามาพื้นที่รวมพล โดยรอบพื้นที่งานพระราชพิธี ประกอบด้วย บ้านพิษณุโลก, บ้านมนังคศิลา, วัดเทพศิรินทร์, สวนสาธารณะสะพานพระพุทธยอดฟ้า, เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี โดยทุกพื้นที่รวมพล จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงครัวพระราชทาน ห้องสุขา การบริการด้านสุขภาพ การแสดงดนตรีและนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพิธีสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ และถือเป็นเกียรติยศสูงสุดที่เจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการได้ทำงานร่วมกัน ขอให้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ และให้ความสำคัญมาตรการงานข่าวเชิงลึกและเตรียมการถวายความปลอดภัยสูงสุด โดยให้มีการซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติงานตามแผนงานให้รอบคอบ รัดกุม โดยเฉพาะการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย การขนส่งและการจราจร รวมทั้งงานบริการทางการแพทย์ พร้อมทั้ง ขอให้ร่วมกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในภาพรวมทุกจังหวัด
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือทุกส่วนราชการได้เตรียมความพร้อมพิธีพลีกรรมตักน้ำที่จะจัดให้มีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เม.ย.62 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างสมพระเกียรติ โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมทุกจังหวัดพร้อมกัน ตั้งแต่ 29 มี.ค. 62 มีผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นประธาน ในการจัดทำแผนและประสานการทำงานร่วมกันของทุกส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่เข้าร่วมเตรียมน้ำพระราชพิธีให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ