รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เวียนหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อแจ้งแนวทางการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชา และแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ขอรับอนุญาตปลูก รวมถึงแนวทางด้านการจัดเตรียมสถานที่ การเก็บรักษาและการควบคุมการใช้สำหรับผู้รับอนุญาตปลูก ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ภายหลังมีประกาศใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ตามแนวทางของกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับแนวทางการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชา พ.ศ. 2562 เพื่อให้การปลูกกัญชาภายในประเทศเป็นใปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม รัดกุม ตามหลักวิชาการ และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงป้องกันมิให้มีการนำกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงต้องมีการจัดทำแนวทางการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชา เพื่อรองรับการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในประเทศต่อไป
โดยกรณีผู้ขอรับอนุญาตรายใหม่ จะต้องมีการพิจารณาใน 6 ประเด็นดังต่อไปนี้ สถานที่เพาะปลูก, ปริมาณการปลูก ต้องสอดคล้องกับแผนการผลิต ทั้งการปลูกเพื่อประโยชน์ของทางราชการ การแพทย์ และการปลูกเพื่อศึกษาวิจัย, ประวัติการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของผู้ขอรับอนุญาต ต้องไม่เคยมีประวัติการถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, มาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกัญชา ซึ่งเป็นไปตาม "แนวทางทารปฏิบัติด้านการจัดเตรียมสถานที่ การเก็บรักษา และการควบคุมการใช้สำหรับผู้ขอรับอนุญาตปลูก ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา", รายละเอียดการดำเนินการ ทั้งกรณีปลูกเพื่อประโยชน์ของทางราชการ การแพทย์ และ กรณีปลูกเพื่อศึกษาวิจัย
ส่วนกรณีของผู้รับอนุญาตประสงค์ต่ออายุ พิจารณาใน 3 ประเด็นดังต่อไปนี้ ประวัติการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของผู้ขอรับอนุญาต ต้องไม่เคยมีประวัติการถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งตรวจสอบโดยกองควบคุมวัตถุเสพติด, ผลการดำเนินงานในครั้งที่ผ่านมา โดยสรุปผลการดำเนินงานให้ชัดเจน ตรงตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินการ และข้อมูลบัญชีรับจ่ายยาเสพติดให้โทษรายเดือน และรายปี, ข้อมูลการกระทำผิดเงื่อนไขการอนุญาต
ส่วนกรณีผู้รับอนุญาตขอเพิ่มปริมาณ พิจารณาใน 2 ประเด็นดังต่อไปนี้ ปริมาณการปลูก กรณีปลูกเพื่อประโยชน์ของทางราชการ การแพทย์ ต้องสอดคล้องกับแผนการผลิต แผนการจำหน่าย และแผนการใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีเอกสารแสดงรายละเอียดการซื้อขายผลผลิตล่วงหน้า ระหว่างฝ่ายเกษตรกร หรือเจ้าของฟาร์ม กับผู้ซื้อผลผลิต ส่วนกรณีปลูกเพื่อศึกษาวิจัย ต้องสอดคล้องกับแผนการผลิต และแผนการใช้ประโยชน์
ในกรณีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในต่างจังหวัด ต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นจากคณะกรรมการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งหรือมอบหมายให้พิจารณา หรือคณะทำงานจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับจังหวัด : ศอ.ปส.(จ).