นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวในการแถลงข่าวเรื่อง "ACT เรียกร้องรัฐบาลใหม่เน้นปราบโกง" พร้อมขอทุกพรรคการเมืองร่วมตรวจสอบการทำงานเพื่อความโปร่งใสว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็นเรื่องใหญ่ที่กระแสสังคมในปัจจุบันต่อต้าน เพราะทำให้การพัฒนาประเทศไม่ยั่งยืน ช่วงนี้เป็นจังหวะดีที่กำลังจะมีรัฐบาลใหม่
"แม้ทุกรัฐบาลจะบอกว่ามีนโยบายปราบทุจริตอยู่แล้ว แต่เราต้องการให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง" นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ACT มีข้อเสนอแนะ 6 ประการ คือ (1) รับฟังเสียงประชาชน ปกป้องและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน
(2) เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้อำนาจในการบริหารที่ประชาชนเข้าถึงง่าย เพื่อมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจจากประชาชน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความโปร่งใส และแสดงถึงการมีธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ
(3) กำกับดูแลคนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีพฤติกรรมฉ้อฉล คดโกง และมีมาตรการลงโทษถอดถอนอย่างชัดเจน หากมีปัญหาส่อเค้าไปในทางทุจริตควรแก้ไขโดยพลัน
(4) สนับสนุนให้องค์กรตรวจสอบ เช่น ป.ป.ช. ได้ทำงานอย่างเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง
(5) การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการควรมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีหลักการเหตุผลชัดเจน ไม่เห็นแก่พวกพ้อง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
(6) สร้างความต่อเนื่องและการบังคับใช้ข้อกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติสำคัญต่างๆ อย่างเข้มข้น เช่น พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตอนุมัติของทางราชการฯ ข้อตกลงคุณธรรม รวมทั้งลดทอนกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่ล้าสมัยและก่อให้เกิดเรียกรับสินบน
"เรื่องเหล่านี้ ได้ริเริ่มในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็หวังว่าจะมีการสานต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากการปราบโกงเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาช่วย" นายวิเชียร กล่าว
ประธาน ACT กล่าวว่า นอกจากการเอาใจใส่เรื่องนี้ของรัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหารแล้ว กลไกของรัฐสภาก็สามารถขับเคลื่อนระบบธรรมาภิบาลได้เช่นกัน ซึ่งมีหน้าที่ที่จะตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว
"กลไกรัฐสภาก็มีความสำคัญที่จะขับเคลื่อนระบบธรรมาภิบาล โดยเฉพาะบทบาทของฝ่ายค้าน ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น ตรงไปตรงมา เพราะทั้งสองฝ่ายถือเป็นตัวแทนประชาชน และต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของการเมืองที่มีธรรมาภิบาล" นายวิเชียร กล่าว
ประธาน ACT กล่าวว่า ที่ผ่านมามีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนการคอร์รัปชันจากประชาชน หลังจากนั้นก็มีกระบวนการดำเนินการต่อเนื่อง หากเรื่องใดมีมูลก็จะส่งต่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการต่อ และในอนาคตจะพัฒนากลไกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายภาคีในการพัฒนาซอฟท์แวร์ในการติดตามตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ ส.ว.ส่วนใหญ่มาจากการแต่งตั้งของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วกังวลใจเรื่องการถ่วงดุลรัฐบาลนั้น นายวิเชียร กล่าวว่า ACT เองคาดหวังว่าทุกคนที่ได้รับแต่งตั้งมานั้นเป็นผู้ทรงเกียรติ จะทำหน้าที่อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ส่วนข้อครหาเรื่องคอร์รัปชั่นในรัฐบาลประยุทธ์ช่วงที่ผ่านมานั้น ACT คาดหวังว่าในอนาคตจะมีคะแนนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ในท้ายที่สุด ผู้ที่จะตัดสินว่ารัฐบาลเป็นอย่างไรก็คือประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ