พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และยภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดอุโมงค์ทางลอดห้าแยกฉลองอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพิ่มสภาพคล่องในการเดินทางของพี่น้องประชาชน เพราะรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหาจราจรของประเทศทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนตามพื้นที่เมืองใหญ่ทุกเมืองในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลของปวงชนชาวไทย เพราะรัฐบาลต้องทำหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ สร้างความเท่าเทียมเป็นธรรม แก้ปัญหาโดยจะมีการวางแผนงบประมาณอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ กำหนดกติกาที่เป็นธรรม ส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศ ทั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และโครงการเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (SEC) โดยเป็นการพัฒนาที่ไม่ขัดแย้งกับสิ่งแวดล้อม สิ่งสำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรที่สำคัญคือที่ดิน ดังนั้น ประโยชน์ต้องเป็นของประเทศและประชาชน ขณะเดียวกัน ประชาชนก็ต้องมีการปรับตัว เพราะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ภูเก็ตก็เป็นเมืองเศรษฐกิจเช่นเดียวกับกรุงเทพฯ ดึงดูดการค้า การลงทุน และคนจากภูมิภาค จึงต้องมีการบริหารจัดการทั้งถนนหนทาง สาธารณูปโภค ขยะ สิ่งแวดล้อม และการจัดระเบียบชายหาด รวมทั้งการนำระบบเตือนภัยที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เพื่อเป้าหมาย "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ตามยุทธศาสตร์ชาติ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังศูนย์ชีววิทยาทางทะเลภูเก็ต เพื่อติดตามความก้าวหน้าทางชีววิทยาทางทะเลของศูนย์ฯ และการอภิบาลสัตว์ทะเลที่ป่วยและบาดเจ็บ ก่อนปล่อยลงทะเล โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจสอบถามการปฏิบัติงานและพูดคุยให้กำลังใจกับคณะเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเต่าทะเล และพะยูนยามีล ก่อนเดินทางต่อไปเพื่อร่วมชมการสาธิตการฝึกการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ พ.ศ. 2562 (Integrated Disaster Management Exercise : IDMEx 2019) กรณีภัยจากสึนามิ ณ ท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต ต่อไป