รมว.สาธารณสุข ระบุการพิจารณาทบทวนการประกาศมาตรการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา(Compulsory Licensing:CL) นั้นจะเป็นผลดีต่อภาวะการค้าต่างประเทศ หลังทางการสหรัฐเตรียมจัดให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ(PWL) จากเดิมที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามอง(WL)
"เราก็มีความตกใจที่กระทรวงพาณิชย์เตือนมา โดยท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ท่านเก่า(นายเกริกไกร จีระแพทย์) ที่เราตกอกตกใจเพราะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ" นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
เมื่อวานนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ รมว.สาธารณสุข, รมว.พาณิชย์ และ รมว.ต่างประเทศ ไปประชุมเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกัน
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติแล้วว่าในแต่ละปีไทยจะต้องใช้เงินซื้อยารักษาโรคมะเร็ง 4 รายการ ราว 800-900 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เงินจำนวนมากนักหากเทียบกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อการค้าต่างประเทศ
"เราเป็นห่วงว่าจะถูกบอยคอต ผลกระทบทั้งหมดก็จะกลับมาสู่ประเทศไทย แต่เราก็ไม่ได้ลืมที่จะดูแลผู้ป่วย...เงิน 800-900 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยน่าจะคุยได้ ผมดูว่าตัวเลขขนาดนี้ไม่เยอะนะกับผลประโยชน์ที่ feed back กลับมา" นายไชยา กล่าว
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการดูแลผู้ป่วยนั้นจะเน้นเรื่องการรณรงค์ป้องกันมากขึ้น โดยจัดหาอุปกรณ์ในการตรวจหาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ธนวัฏ/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--