นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากปีนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักมีปริมาณน้อย รวมถึงช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2562 บางพื้นที่อาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะเร่งด่วน โดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก เน้นการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน การสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านและแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา การขุดเจาะบ่อบาดาลและเป่าล้างบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้งาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น และกำชับให้จังหวัดดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งน้อยที่สุด
ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปภ.ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ประสบภัยบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับจังหวัดอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนอกพื้นที่ประสบภัยบริหารจัดการเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ รถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล รวมถึงแจกจ่ายน้ำอุโภคบริโภคให้เข้าถึงประชาชนผู้ใช้น้ำทุกครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้งให้ได้มากที่สุด