นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การดำเนินนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์นั้นลำดับแรกต้องนำมาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยก่อน โดยนับจากนี้ภายใน 5-6 เดือน ภาครัฐจะผลิตสารสกัดจากกัญชาประมาณ 1 ล้านขวด ขวดละไม่เกิน 5 ซี.ซี.แล้วส่งมอบให้กับโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขไว้ใช้กับผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ หากผลการใช้รักษาออกมาเป็นที่น่าพอใจจะนำไปสู่การผลิตในปริมาณที่เพิ่มขึ้นและขยายการใช้อย่างกว้างขวาง เมื่อทางการแพทย์ยอมรับจะนำไปสู่การพัฒนาในขั้นต่อไป
ส่วนกรณีที่กัญชาได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายจะควบคุมผลข้างเคียงจากการใช้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การใช้อย่างไม่มีความรู้ เอาของใต้ดิน ซึ่งไม่รู้กรรมวิธีมาใช้ ภาครัฐก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน
"นโยบายมีความคืบหน้าแน่นอน ภาครัฐทยอยให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ทดลองปลูกและวิจัยมากขึ้นเรื่อยๆ ที่โรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ก็ทำการทดลองเรื่องนี้ หน่วยงานอื่นก็เช่นกัน เพราะเราต้องการผลการวิจัยที่ยืนยันได้ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ จะได้เดินหน้าขั้นตอนอื่นๆ" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนความกังวลเรื่องต่างชาติจะมาใช้พื้นที่ในประเทศไทยปลูกกัญชาจำหน่ายนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า กัญชาไทยต้องปลูกโดยคนไทย และให้คนไทยขายเท่านั้น แต่ถ้าต่างชาติมารับซื้อของไทยเอาเงินมาให้คนไทยแบบนั้นไม่ปิดกั้น อย่างไรเสีย ประโยชน์ของคนไทยต้องมาก่อน
นายอนุทินกล่าวถึงการรับรองหมอพื้นบ้านว่า เป็นอีกเรื่องที่กำลังเร่งผลักดันนโยบาย จากนี้เมื่อหมอพื้นบ้านได้รับการรับรอง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเร็ววัน หมอพื้นบ้านที่มีสูตรยาซึ่งมีส่วนผสมทางกัญชาก็สามารถใช้รักษาคนได้ เป็นอีกทางเลือกให้ผู้ป่วย