รมว.เกษตรฯ เร่งรัดโครงการบรรเทาอุทกภัยอ.หาดใหญ่ ให้ทันรับสถานการณ์น้ำฤดูฝนภาคใต้

ข่าวทั่วไป Thursday August 15, 2019 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังติดตามการบริหารจัดการน้ำ และตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า จากการที่ อ.หาดใหญ่ ได้เคยเกิดปัญหาอุทกภัยและสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานจึงได้มีการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จังหวัดสงขลา มีการกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาเป็น 3 แนวทาง คือ 1) การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 จากเดิมระบายน้ำได้ 465 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที 2) การสกัดน้ำไม่ให้เข้าเมือง โดยการขุดคลองสายใหม่เพื่อตัดยอดน้ำก่อนไหลเข้าเมือง มีอัตราการระบาย 2,000 ลบ.ม./วินาที และ 3) การตัดยอดน้ำ โดยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจำนวน 5 แห่ง ความจุรวม 120 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ในระยะเร่งด่วน กรมชลประทานได้ดำเนินการตามแนวทางที่ 1 ซึ่งเมื่อรวมกับการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภา ทำให้สามารถระบายน้ำได้รวม 1,665 ลบ.ม./วินาที อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 และเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม.

นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำ ให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

"เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองคลองภูมินาถดำริให้ระบายน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ได้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถลดความเสียที่เกิดในเขตพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญได้เป็นอย่างดี" นายเฉลิมชัย กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงมรสุมที่ใกล้จะถึงนี้ ทางกรมชลประทานคาดว่าคลองระบายน้ำ ร.1 จะสามารถระบายน้ำได้ประมาณล 1,000 ลบ.ม./วินาที ถ้าฝนตกไม่เกิน 200 มิลลิเมตร ก็จะสามารถรับมือต่อสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดโครงการที่ยังไม่เรียบร้อย ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

สำหรับการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของจังหวัดสงขลา ได้มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การณ์อุทกภัย โดยการตรวจสอบความพร้อมใช้งานอาคารชลประทานขนาดกลางในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา การขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดวัชพืชในคลองชลประทาน คลองธรรมชาติและในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ตามแผนงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ

นายเฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมชลประทานยังได้มีแผนเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุและป้องกันอุทกภัยใน 4 จังหวัด คือ 1) จ.ตรัง มีพื้นที่เฝ้าระวัง 3 จุด มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 10 เครื่อง 2) จ.พัทลุง มีพื้นที่เฝ้าระวัง 4 จุด มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ 14 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 28 เครื่อง 3) จ.สตูล มีพื้นที่เฝ้าระวัง 6 จุด มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง และ 4) จ.สงขลา มีพื้นที่เฝ้าระวัง 3 จุด มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ 64 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 77 เครื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ