นางแนนซี่ มาตาซูตะ อดีตประธานหอการค้าไทย-อินโดนีเซีย ชาวอินโดนีเซีย มอบอำนาจให้ที่ปรึกษากฎหมายนำหนังสือร้องเรียนยื่นให้กับ นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และนางรสยา เธียรวรรณ ผู้บริหาร บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับการให้ถุงสินบนพยาน การสร้างพยานหลักฐานเท็จและการไต่สวนโดยมิชอบด้วยกฎหมายในประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2560
ทั้งนี้ นางแนนซี่ ขอให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาดนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายไทย หรือหากประเทศไทยไม่สามารถมีองค์กรใดสามารถให้ความยุติธรรมแก่ผู้เสียหายในความผิดคดีอาญาได้ ก็ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทำเรื่องเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย พ.ศ.2522 ต่อไป เพราะขณะนี้กระบวนการยุติธรรมในอินโดนีเซียได้เริ่มแล้ว ซึ่งตามกฎหมายอินโดนีเซียมีโทษสถานหนัก
อดีตประธานหอการค้าไทย-อินโดนีเซีย ยังส่งสำเนาพร้อมรับรองถูกต้องโดยโนตารี พับบลิคแห่งประเทศอินโดนีเซีย สำหรับเอกสารการดำเนินคดีอาญา น.ส สุภา นางรสยากับพวกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียและได้ส่งหลักฐานการให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรของพยานปากสำคัญผู้ได้รับถุงสินบนและเป็นประจักษ์พยานในการสอบสวนมิชอบในประเทศอินโดนีเซียมามอบให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป