นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องปกป้องและให้ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด (พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ) รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ ไม่เฉพาะในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการใช้สารเคมีทางการเกษตรเพื่อกำจัดวัชพืชฆ่าแมลง ทำให้ผลผลิตเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น สวยงามมากขึ้น แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และการจำกัดการใช้ก็เพื่อช่วยลดความรุนแรงผลกระทบของสารเคมีต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์และไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหา จึงต้องยกเลิกการนำมาใช้ เพื่อไม่ให้มีสารอันตรายต่อสุขภาพในส่วนประกอบของผลผลิตทางเกษตรกรรม โดยต้องมีผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้และผู้บริโภค
สำหรับผลเสียไม่ได้เกิดแค่กับเกษตรกรเท่านั้น ประชาชนผู้บริโภคเป็นผู้รับสารพิษไปสะสมในร่างกายทำให้เสียสุขภาพ เสียเงินทองและอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตด้วย
ส่วนผู้ใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรมควรตระหนักถึงสุขภาพของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ต้องเข้าใจว่าสารเคมีมีผลเสียต่อส่วนรวมในวงกว้าง ควรเน้นการปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์
"ผมมีความเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรที่จะทำไม่สำเร็จ สารเคมีอันตรายเป็นเรื่องของส่วนรวม ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรง ประเทศก็ไม่สามารถพัฒนาให้เจริญได้ ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องร่วมแก้ไข และหามาตรการให้ประชาชนได้บริโภคอาหารปราศจากสารพิษ มีคุณค่าต่อร่างกาย ในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นหน้าที่และภารกิจที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ สารทุกข์สุขดิบของพี่น้องประชาชน ต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ได้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์และคุณค่า ถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด" นายอนุทินกล่าว