นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้ต้องการสื่อสารไปถึงทุกภาคส่วนว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเฉพาะต่อการท่องเที่ยว ในทวีปยุโรปมีความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวียที่มีการรณรงค์ให้เดินทางเที่ยวในระยะใกล้ ๆ ด้วยรถไฟหรือเรือ ไม่ควรขึ้นเครื่องบินเพราะจะทำให้เกิดมลภาวะ
ประเทศไทยเองก็จะต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าเรากำลังรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน และขยะพลาสติก โดยจะต้องตั้งเป้าหมายลดขยะพลาสติกและมลพิษให้ได้ 50% และที่สำคัญคือเรื่องขยะในทะเล ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวฯ จะรณรงค์ว่าอย่าคิดว่านักท่องเที่ยวที่ออกไปเที่ยวทะเลแล้วทำให้เกิดขยะ แต่คนที่อยู่บนฝั่งจะต้องปิดกั้นเรื่องขยะให้ดีที่สุดอย่าให้ไหลลงสู่ทะเลให้ได้
"คนส่วนใหญ่อยู่บนฝั่ง คนที่ออกไปเที่ยวทะเลมีไม่ถึง 5% เพราะฉะนั้นขยะที่อยู่ในทะเลเป็นพันตันเป็นหมื่นตันไม่ได้เกิดจากในทะเล แต่เกิดจากบนบกไหลลงไปสะสมในทะเล ก็คือทิ้งท่อระบายน้ำ ทิ้งลงสู่แม่น้ำลำธาร สุดท้ายก็ไหลลงไปกองอยู่ในทะเลหมด โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่การสูญสลายมันน้อยมาก หรือไม่ย่อยสลายเลย สุดท้ายก็ปลายเป็นมลภาวะกลางทะเล ตรงนี้ต้องช่วยรณรงค์กันเข้มแข็ง"นายพิพัฒน์ กล่าว
ส่วนปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องไม่คาดคิด เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝนไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ก็เกิดก่อนเวลา อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะสั้นคงไม่มากนัก อาจจะมีผลในแง่ของความรู้สึกมากกว่า เพราะจากนี้จนถึงหน้าไฮซีซั่นนักท่องเที่ยวได้จองการเดินทางและที่พักล่วงหน้าไปหมดแล้ว แต่ในระยะยาวจะมีผลกระทบมาก หากเราป้องกันแก้ไขปัญหาได้ไม่ดีหรือรณรงค์ไม่ดีไม่เป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นการรณรงค์ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและขยะต้องเป็นรูปธรรม