ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นลมล้มฟุบลงระหว่างพูดอภิปรายกลางเวทีสัมมนา"มองไปข้างหน้ารัฐบาลใหม่"หลังจากที่เริ่มพูดไปเพียงประมาณ 30 นาที โดยกระชากแท่นอภิปรายล้มฟาดทับตัว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ช่วยปั๊มหัวใจและให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนกระทั่งรู้สึกตัวแล้ว และขณะนี้เตรียมนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ ก่อนการสัมมนานายมิ่งขวัญ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ไม่แน่ใจว่าจะพูดได้จบหรือไม่ เพราะไม่สบาย และพักผ่อนไม่เพียงพอ ล่าสุด รมว.พาณิชย์ มีอาการดีขึ้นแล้ว แต่แพทย์ยังขอให้พักรอดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน 24 ชั่วโมง
พล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า อาการเป็นลมของนายมิ่งขวัญน่าจะมีสาเหตุกินยาหลายชนิด แต่กินอาหารน้อย ประกอบกับมีความเครียดจึงเกิดอาการเป็นลมหมดสติดังกล่าว
จากการตรวจอาการเบื้องต้นพบว่า อาการปลอดภัยดี โดยในส่วนของสมองซึ่งถูกแท่นอภิปรายล้มกระแทกหน้าผากนั้นจากการตรวจสแกนด้วยคอมพิวเตอร์พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่พบรอยแตกร้าว จึงคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันพรุ่งนี้ แต่แพทย์แนะนำให้พักรอดูอาการที่โรงพยาบาล 24 ชั่วโมง เพื่อจะดูอาการให้มั่นใจก่อน
ขณะที่นายมิ่งขวัญกล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะนั่งรถเข็นออกมาจากห้องเอ็กซเรย์ก่อนเข้าห้องพักด้วยใบหน้าที่สดชื่นว่า รู้สึกดีขึ้นแล้วไม่ต้องเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม ก่อเกิดเหตุดังกล่าวนายมิ่งขวัญ ได้กล่าวในหัวข้อ"การตลาดประเทศไทย"ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการวางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการนำรายได้เข้าประเทศ เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยยังขาดยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ไทยยังล้าหลังประเทศอื่นในเอเชียที่ต่างมียุทธศาสตร์การสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างชัดเจน ส่งผลให้หลายประเทศมีความร่ำรวย
"วันนี้เขารวยกันแล้วทั้งเอเชีย เหลือแต่เราที่ยังหันรีหันขวาง เพราะยุทธศาสตร์เรายังไม่ชัดว่าจะไปทางไหน"นายมิ่งขวัญ กล่าว
สำหรับกลุ่มยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ ประกอบด้วย 1.รายได้จากการลงทุนภาคอุตสาหกรรม 2.รายได้จากการท่องเที่ยว 3.รายได้จากการส่งออก และ 4.การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวงการบันเทิง
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--