พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลระดับนานาชาติ "Digital Thailand Big Bang 2019: ASEAN Connectivity" จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Award และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "บทบาทของประเทศไทยในเวที ASEAN Connectivity" ในวาระที่ไทยได้รับบทบาทประธานอาเซียนอีกครั้งหนึ่งในรอบ 10 ปี ว่า วันนี้จะต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน โดยปัจจุบันนี้จำเป็นต้องร่วมกันสร้างความเชื่อมโยง หรือ Connectivity ทั้งในประเทศภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งจะต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงการนำมาพัฒนาสตาร์ทอัพและการพลิกโฉมภาคธุรกิจต่างๆ โดยต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัล 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมุ่งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในทุกมิติ และต้องสนับสนุนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติให้ไทยก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
นอกจากนี้ยังต้องนำดิจิทัลสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งรัฐบาลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนไทยได้รับการจัดอันดับขีดความสามารถทางการแข่งขันดีขึ้นตามลำดับล่าสุดอยู่ในลำดับ 38 จาก 140 ประเทศ และยังมีการร่วมพัฒนาการให้บริการภาคการเงินการธนาคาร สร้างความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังมุ่งเดินหน้าส่งเสริมเมืองอัจริยะโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และมุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สร้างโอกาสที่เท่าเทียมทั่วถึง เช่น โครงการอินเตอร์เน็ทหมู่บ้าน ที่สำคัญรัฐบาลยังเร่งนำร่องการใช้ดิจิทัลในภาคการเกษตร ทั้งในด้านการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูป และการตลาด การใช้บิ๊กดาด้า กำหนดพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งทำสำเร็จในทุ่งกุลาร้องไห้
ทั้งนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลจะต้องอยู่บนพื้นฐานการคำนึงถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เช่น เรื่องของการบริหารจัดการน้ำ และสุดท้ายคือการปรับสมดุลและการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐที่ต้องมาจากการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน
นายกรัฐมนตรียังฝากให้เด็กและเยาวชนให้ความสนใจในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การก้าวเข้าสู่การเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ เป็นผู้พัฒนาในสาขาต่างๆ รวมถึงการสนใจศึกษาในด้านของเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการของประเทศ ซึ่งรัฐบาลตั้งใจอย่างมากที่จะสร้างความร่วมมือ เดินหน้าไปข้างหน้าพร้อมกับเพื่อนและมิตรประเทศ
ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการหลายด้านเพื่อรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งทุกวันนี้จะเห็นการหลอกลวงรูปแบบต่าง ซึ่งทุกฝ่ายจึงต้องร่วมสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับประชาชน