นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มั่นใจว่า ในปี 63 ป.ป.ช.จะสาง 15 คดีสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ ได้แก่
1.คดีทุจริตเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและของประเทศ ปี 2556
2.คดีการปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านผด็จการแห่งชาติ ปี 2557
3.คดีทุจริตในการดำเนินการก่อสร้างฝสยและเพาะชำปลูกหญ้าแฝกตามโครการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและปาไม้ (ฝายแม้ว)
4.คดีการอนุญาตเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการเมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือ
5.คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ภาค 2
6.คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ
7.คดีทุจริตเงินทอนวัด (36/47)
8.คดีทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด GT200 และอัลฟ่า 6 (17/20)
9.คดีทุจริตสร้างสนามกีฬาฟุตชอล
10.คดีทุจริตเรียกรับเงินจากผู้นำเข้ารถยนต์อิสระทำให้ผู้นำเข้าเสียภาษีน้อยลง (รถหรู)
11.คดีทุจริตในโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย
12.คดีทุจริตในการซื้อขายครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน Boeing B777 - 200 ER ของ บมจ.การบินไทย (THAI) (โรลส์-รอยซ์)
13.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง และในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ
14.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดินตำบลเขากะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด
15.คดีทุจริตในการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนเขาเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเตียนและป่าเขื่อนลั่น อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับคดีเหมืองแร่ทองคำ มีความคืบหน้าไปกว่า 80% ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ โดยจะมีการพิจารณาต่อเนื่อง ซึ่งในประเด็นสินบนมีความคืบหน้าไปราว 50% โดยกำลังรอเอกสารจากต่างประเทศ
ส่วนคดีสินบนโรลส์-รอยซ์นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอคำชี้แจงจากผู้ถูกกล่าวหา คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งในคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหา 7-8 คน แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงนักการเมือง
"หลังจากนี้ไปจะมีการประกาศคำมั่นสัญญาว่าในปีต่อไปจะดำเนิยการไต่สวนคดีใดให้แล้วเสร็จบ้าง ซึ่งในปี 63 ตั้งเป้าจะดำเนินการคดีสำคัญให้แล้วเสร็จ 15 คดี" นายวรวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ จากสถิติผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2562 ด้านปราบปรามการทุจริตมีจำนวนเรื่องกล่าวหาคงเหลือสะสมมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 85.24%, 81.62%, 81.22% และ 75.55% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานคดีของสำนักงาน ป.ป.ช.และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เป็นอย่างดี
ผลการดำเนินงานในช่วงนี้มีคดีสำคัญ เช่น โครงการเงินทอนวัด,โครงการก่อสร้างโรงพัก, โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล, จัดซื้อรถดับพลิงและอุปกรณ์, โครงการบ้านเอื้ออาทร, โครงการ Motif of Light, เงินบริจาคจากผู้ปกครองโรงเรียนสามเสน, โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม เป็นต้น
ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมืองนั้น นายวรวิทย์ กล่าวว่า จะมีการตรวจสอบตามปกติของทรัพย์สินตามเอกสารที่แจ้งมาซึ่งใช้เวลา 90 วัน หลังจากนั้นจะมีการตรวจสอบเพื่อยืนยันความมีอยู่จริงใช้เวลา 180 วัน ซึ่งในกรณีของพระเครื่องหรือเหล็กไหลที่มีการประเมินราคามูลค่าสูงมากนั้น ป.ป.ช.จะพิจารณาว่ามีเจตนาที่จะปกปิดที่ทำหรือไม่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนตอนสอบความมีอยู่จริง แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยตรวจสอบ