น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนครี (ครม.) เห็นชอบให้เสนออุทยานธรณีโคราชเข้ารับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
สำหรับอุทยาธรณีโคราช ที่จะเสนอต่อองค์กรยูเนสโก มีเนื้อที่ประมาณ 3,167 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉลิมพระเกียรติ ขามทะเลสอ สูงเนิน และสีคิ้ว ซึ่งมีความเหมาะสมในการเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก เนื่องจากมีแหล่งธรณีวิทยา แหล่งธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรม รวม 35 แหล่ง โดยเฉพาะแหล่งธรณีวิทยาที่มีคุณค่าระดับนานาชาติ มีจำนวน 4 แห่ง ดังนี้
1.แหล่งอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินไพลสโตซีนตอนต้นแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความหลากหลายของชนิดและสีสัน
2.แหล่งไดโนเสาร์อิกัวโนดอนต์พันธุ์ใหม่ของโลก 3 สกุล และ 3 ชนิด รวมทั้งเต่าและจระเข้พันธุ์ใหม่ 1 สกุล 2 ชนิด
3.แหล่งฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์มากที่สุดในโลก พบถึง 10 สกุล จาก 55 สกุล ที่พบทั่วโลก
4.แหล่งฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอายุ 200,000 ปี พบ 15 ชนิด ซึ่งมีความหลากหลายชนิดที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประโยชน์ของการเป็นสมาชิกของอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก คือ 1.ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในด้านแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากขึ้น 2.สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ 3.สร้างงานและกระจายรายได้ให้ประชาชนในท้องถิ่น
ปัจจุบันอุทยานธรณีของยูเนสโกทั่วโลก มี 147 แห่ง ใน 41 ประเทศ สำหรับในภูมิภาคอาเซียน มีจำนวน 8 แห่ง ใน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย 1 แห่ง เวียดนาม 2 แห่ง อินโดนีเซีย 4 แห่ง และไทย 1 แห่งคือ อุทยานธรณีสตูล ซึ่งได้รับรองการเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561