น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการดูแลในเรื่องสิทธิมนุษยชนของเด็กและเยาวชน
สืบเนื่องจากกฎหมายได้คุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจไว้ว่า การใช้เครื่องพันธนาการแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในการควบคุมของเจ้าพนักงานพินิจนั้นกระทำไม่ได้ตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด
แต่หากจะใช้เครื่องพันธนาการแก่เด็กและเยาวชน มาตรา 103 ของ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีการพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว ได้อนุญาตใน 2 กรณี คือ เพื่อป้องกันการหลบหนีเมื่อนำตัวออกมานอกสถานที่ควบคุม หรือเพื่อความปลอดภัยของเด็กเองหรือบุคคลอื่นในกรณีที่เกิดความไม่สงบในสถานที่ควบคุม ซึ่งการใช้เครื่องพันธนาการ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯจะเป็นผู้สั่งการและต้องบันทึกเหตุผลความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องพันธนาการด้วย
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้เครื่องพันธนาการใช้ได้ 2 ประเภท คือ 1.สายรัดข้อพลาสติกที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด แบบตวัดรัดให้แน่นด้วยตัวเอง โดยใช้ปลายพลาสติกพันรอบข้อมือซ้ายและข้อมือขวา และ 2.กุญแจมือมี 2 แบบ คือ กุญแจมือแบบห่วงทำด้วยโลหะมีฟันเฟืองโลหะระหว่างห่วงโลหะทั้งสองข้างเชื่อมติดกันด้วยลูกโซ่โลหะ และ กุญแจมือแบบห่วงทำด้วยโลหะมีฟันเฟืองและเชื่อมห่วงโลหะติดกันด้วยบานพับโลหะ