(เพิ่มเติม1) นายกฯ ตั้งศูนย์เฉพาะกิจแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำ ย้ำรัฐบาลมีแผนบริหารจัดการให้เหมาะแต่ละพื้นที่ ปัดเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน

ข่าวทั่วไป Monday January 6, 2020 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำขึ้นมาอีกคณะ เพื่อบูรณาการทำงานของสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานอื่นๆ ในการวางแผนระยะยาว ในการเก็บน้ำ การพร่องน้ำในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายโครงการที่ทยอยทำไปแล้ว และใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก โดยบางพื้นที่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนการทำเกษตร เช่น การปลูกพืชพลังงาน เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าชุมชน เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่ และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันการตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนก็จะต้องมีระบบในการบริหารจัดการ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองได้สั่งการไปแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการบริหารจัดการน้ำแล้ว แต่ในบางพื้นที่อาจจะไม่ทั่วถึง เพราะต้องดูที่ต้นทุนน้ำด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ปัญหาด้วยวิธีการอื่น เช่น การขุดลอกคูคลอง การขุดบ่อ ซึ่งในขณะนี้ได้ให้ไปหาวิธีการขุดดินลอกบ่อ ให้ไปหาวิธีการจัดทำขุดดินแลกน้ำ ขุดดินแลกบ่อ โดยนำดินไปขายให้กับพ่อค้า ซึ่งตามกฏหมายสามารถทำได้ แต่สิ่งสำคัญคือประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค หากไม่มีน้ำประปา พร้อมกันนี้เตรียมหางบประมาณในการจ้างงานในพื้นที่ เพื่อให้ทุกตำบลทุกหมู่บ้านเกิดการจ้างงานสร้างรายได้ เช่น การสร้างถนนคอนกรีต ถนนยาง

ส่วนน้ำใช้ภาคอุตสาหกรรม ในเรื่องนี้รัฐบาลก็ต้องดูแล เพราะภาคอุตสาหกรรมจะต้องเสียภาษีน้ำในอัตราที่สูง ซึ่งเรื่องนี้ไม่อยากให้นำไปเป็นประเด็น หรือให้ข้อมูลที่บิดเบือนว่าเป็นการเอื้อประโยชน์คนรวย เพราะทุกคนได้เสียภาษีต้องกฏหมายที่ผ่านมารัฐบาลอยากให้ทุกคนนั้นเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ แม้บางครั้งตนเองไม่สามารถที่จะบังคับใครได้ แต่อยากจะขอให้ทุกคนได้เข้าใจ ไม่อยากให้ใครมาดึงการพัฒนาประเทศกลับไปกลับมา เพราะตนเองนั้นตลอด 5 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 6 มีความตั้งใจและมีแรงศรัทธาในการบริหารประเทศ โดยไม่ต้องการอำนาจหรือผลประโยชน์ใดๆ ดังนั้นขอให้ไว้ใจตัวเอง ในการทำหน้าที่บริหารประเทศ ควบคุมไม่ให้กลับไปที่เดิม

ส่วนการแก้ปัญเรื่องที่ดินทำกินนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลยึดระเบียบ หลักเกณฑ์ ดูความเดือดร้อนของประชาชน และไม่มีเลือกปฏิบัติ ซึ่งจะเร่งรัดไปยังทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทุกจังหวัดเหมือนกับที่ทำมาแล้วหลายแสนไร่ ซึ่งจะเป็นการให้ได้ใช้ประโยชน์แต่ไม่ใช่การออกโฉนด เพราะจะขัดกับกฎหมายและไม่มีที่ดินมากพอที่จะทำได้ ซึ่งขอให้ทุกคนเข้าใจหลักการข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาปัญหาที่พบคือไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ต่างจากหลายประเทศที่ทุกคนให้ความร่วมมือและสามารถใช้กฎหมายทำให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมได้

นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ขอให้ทุกคนย้อนมองว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องเสียภาษี จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับกฎหมายกำหนด พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ปรับขึ้นภาษี เพียงแต่ศึกษาปรับขึ้นภาษีสินค้าบางประเภท เช่น สินค้าที่มีค่าความหวานเพราะรัฐบาลมองเรื่องสุขภาพ รวมถึงภาษีท้องถิ่นที่ต้องจัดเก็บเพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่น แต่คงไม่ใช่ระดับที่สูงมากนัก แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่ระบบภาษี ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาประเทศ โดยรัฐบาลไม่ได้มองหรือมุ่งหวังว่าเรื่องจะเป็นรายได้หลัก เช่นเดียวกับโครงการ ชิม ช็อป ใช้ ที่ต้องการให้ร้านค้าต่างๆเข้าสู่ระบบ

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันพรุ่งนี้จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำและกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) การป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ ตามกรอบรายละเอียดโครงสร้างศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการอำนวยการศูนย์ฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ