พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในหลายพื้นที่ และ กทม.เริ่มคลี่คลายหลังจากฝนตก แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ ร่วมแก้ปัญหาค่ามาตรฐานฝุ่นละอองกันอย่างจริงจัง ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะการคงเข้มมาตรการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมต้นเหตุจากการเกิดฝุ่นละอองจาก ยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง รวมทั้งการเผาและกิจการที่ก่อให้เกิดควัน
ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกส่วนราชการพิจารณาตรวจสอบยานพาหนะในสังกัด และลดการใช้ยานพาหนะราชการในพื้นที่วิกฤติ ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึก และขอความร่วมมือประชาชนกับมาตรการของรัฐมากขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการในระยะเร่งด่วนให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาติดตามแจ้งเตือนและให้คำแนะนำกับประชาชน ให้ทราบถึงแนวโน้มสภาวะอากาศและค่ามาตรฐานฝุ่นละอองในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมทางร่างกายและอุปกรณ์ป้องกันตนเอง
พร้อมทั้งขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร คุมเข้มการก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้าและตึกสูงในเมืองใหญ่ตามมาตรการที่กำหนดอย่างจริงจัง และพิจารณาปรับลดเวลาการขนส่งในเมืองในภาวะวิกฤตทันที รวมทั้งควบคุมการเผาในที่โล่งหรือกิจการที่ก่อให้เกิดควันให้มากที่สุด
และขอความร่วมมือ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ประสานกับตำรวจให้ตรวจจับและบังคับใช้กฎหมายเข้มกับรถควันดำอย่างจริงจัง ตรวจตราสภาพรถสาธารณะของรัฐไม่ให้สร้างปัญหาเอง และพิจารณาปรับการเดินรถโดยสารสภาพใหม่หรือนำรถไฟฟ้า เข้ามาใช้ในพื้นที่ชั้นในหรือพื้นที่ชุมชนมากขึ้น รวมทั้งพิจารณาสนับสนุนประชาชนให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะของรัฐมากขึ้น
สำหรับกระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้คุมเข้มโรงงานอุตสาหกรรมและขอความร่วมมือลดกำลังผลิตทันทีที่เกิดภาวะวิกฤต ขณะเดียวกัน ขอให้กระทรวงพาณิชย์ ช่วยลงตรวจตราควบคุมราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และเครื่องฟอกอากาศ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
พล.อ.ประวิตร ยังได้ขอให้ กทม.เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวส่วนกลางให้มากขึ้น และพิจารณาล้างถนน และต้นไม้ข้างทางทุกวัน เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะการฟุ้งกระจายของฝุ่นขนาดเล็กระดับต่ำ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงตรวจสุขภาพประชาชน เพื่อประเมินผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพประชาชนในภาพรวม