การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ จ.นราธิวาส โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรีได้เดินทางลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
โดยช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นจะเข้าสู่การประชุม ครม.สัญจร
สำหรับวาระการพิจารณาในที่ประชุม ครม.สัญจร ที่น่าสนใจวันนี้ ต้องติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งหลายพื้นที่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนแล้ว โดยกรมควบคุมมลพิษเตรียมจะเสนอ 12 มาตรการยาแรงเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ประกอบด้วย
1.ขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก
2.ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ในวันคี่ ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.63
3.ตรวจวัดควันดำรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) ทุกคัน โดยเพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุด ครบทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ
4.กรมการขนส่งทางบก ปฏิบัติการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ในการตรวจสอบ ตรวจจับรถควันดำสำหรับรถโดยสารและรถบรรทุก เพื่อออกคำสั่งห้ามใช้รถ
5.ตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้สั่งปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือสั่งหยุดการประกอบกิจการ
6.กำกับให้กิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าและก่อสร้างอื่นๆ เป็นไปตามข้อกำหนด ไม่ทำให้เกิดฝุ่นและปัญหาการจราจร บริเวณรอบพื้นที่ก่อสร้าง
7.ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่กระทำการเผา
8.จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาศัยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการเผาในที่โล่งในช่วงสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละออง และเข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง
9.ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 PPM ซึ่งเป็นน้ำมันที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองน้อย
10.ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน และรถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน
11.ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษาสนับสนุนการจัดโครงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 5 ปี เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง
12.สร้างการรับรู้และเข้าใจแก่ประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม จะเสนอแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วน ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ที่มีภาระหนี้กว่า 1.3 แสนล้านบาท
กระทรวงการคลัง จะเสนอแผนการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และสอดรับกับการดำเนินโครงการของรัฐบาลที่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกร
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการคืนอากรและหลักประกันการชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและอากรตอบโต้การอุดหนุน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เตรียมเสนอโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืนในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : เมืองนวัตกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาให้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเตรียมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2 แทนตำแหน่งที่ว่าง