นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่ากรมควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (KCDC) พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายที่ 16 ของประเทศ โดยผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนี้เป็นหญิงวัย 42 ปีซึ่งเดินทางกลับจากประเทศไทยว่า ได้รับข่าวแล้ว กำลังประสานกับทางกรมควบคุมโรคของเกาหลีใต้เกี่ยวกับผลการสอบสวนโรคเบื้องต้นและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นอย่างไร เพื่อที่จะเอาข้อมูลต่างๆ มาใช้ในการทำงานเพื่อที่จะดูว่าถ้าผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อจริง น่าจะติดเชื้อจากไหน พื้นที่ไหน
"อยากให้มองแบบสามัญสำนึกทั่วไปว่าในเมื่อคนจีนที่อยู่ในประเทศไทยก็ยังป่วยได้ ยังสามารถแพร่เชื้อให้คนไทยได้ ทั่วๆไป นักท่องเที่ยวเวลาไปไหนก็มักจะไปเป็นกลุ่มก้อน พื้นที่ไหนที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ คนจีน คนเกาหลีก็มักจะเที่ยวในสถานที่นั้นๆ เพราะฉะนั้นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะติดเชื้อซึ่งกันและกันในทางทฤษฎีมันก็เป็นไปได้อยู่แล้ว"
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไทยยังอยู่ในจุดที่แพร่เชื้อในระดับที่อยู่ในวงจำกัดเหมือนเดิม แต่ข่าวนี้ไม่ได้มีผลต่อระดับการประเมินความเสี่ยงของไทยเลย เรามีโอกาสในระดับความเสี่ยงต่ำอยู่แล้วที่จะสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโรคนี้ในเมืองไทย แต่ถ้าการแพร่โรคในเมืองไทยยังดำเนินต่อไปโดยที่ไม่สามารถตรวจจับได้สักระยะนึงเราอาจจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และเมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นในประเทศไปถึงจุดนึง ระดับความเสี่ยงของไทยก็จะเพิ่มขึ้น
"ตอนนี้เราพยายามอย่างเต็มที่จะค้นหาผู้ป่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วก็จะค้นหาผู้สัมผัสมาซักประวัติ มาตรวจร่างกาย ตรวจหาเชื้อ และติดตามผู้สัมผัสไประยะนึง"
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยล่าสุด วันที่ 4 ก.พ. เวลา 8.00 น. ยังคงอยู่ที่ 19 รายเท่าเดิม โดยกลับบ้านแล้ว 8 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 11 ราย ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 492 รายคัดกรองจากสนามบิน 43 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 449 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 119 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 373 ราย โดยวันที่ 3 ก.พ. พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 7 ราย
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า จากการที่มีการเจอผู้ติดเชื้อในประเทศแล้วคือคนขับแท็กซี่ ทำให้ต้องทำงาน 2 ด้าน คือ เฝ้าระวังคนไทยด้วยกันและเฝ้าระวังกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วย
ด้านนพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมการดูแลกลุ่มคนไทยในอู่ฮั่นที่รัฐบาลส่งเครื่องบินไปรับกลับประเทศว่า มีมาตรการดูแล 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.มาตรการเฝ้าระวังก่อนเดินทาง จะมีการคัดกรองสุขภาพโดยทีมของทางการจีนก่อนขึ้นเครื่อง 2.มาตรการดูแลขณะการเดินทางและเมื่อถึงประเทศไทย ทีมแพทย์ไทยจะให้การดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปพร้อมกัน ระหว่างอยู่บนเครื่องจะคัดกรองซ้ำ เพื่อแยกผู้ที่อาจมีอาการป่วยออกจากคนอื่นและให้การดูแลในพื้นที่ที่แยกไว้ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยจะวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง ผู้ที่มีอาการป่วยจะส่งไปรับการรักษาตามมาตรฐาน ส่วนผู้ที่ยังไม่มีอาการจะได้รับการดูแลติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวันจนครบ 14 วันตามมาตรฐานการเฝ้าระวังควบคุมโรค และ3.การสื่อสารญาติเพื่อลดความวิตกกังวล