รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ทำเนียบรัฐบาลได้เปิดจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและสินค้าอื่นๆ ให้กับประชาชนทั่วไป 2 จุด คือ ประตู 6 สะพานมัฆวานตรงข้ามสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ (UN) และ ฝั่งตรงข้ามประตู 4 บริเวณศูนย์บริการประชาชน โดยเปิดจำหน่ายจุดละ 10,000 ชิ้น และจะแบ่งขายเป็นแพ็คๆ ละ 10 ชิ้น ราคา 25 บาท แต่จำกัดให้ซื้อได้คนละ 1 แพ็คเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีเจลล้างมือ ขนาด 400 กรัม ขวดละ 65 บาท จำกัดการซื้อคนละ 1 ชิ้น, หลอด 50 กรัม หลอดละ 24 บาทให้ซื้อได้คนละ 2 ชิ้น และ แอลกอฮอล์ 70% ขวดละ 14 บาทจำกัดการซื้อคนละ 2 ขวด โดยจะเปิดจำหน่ายต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวขณะเดินแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือที่สถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ และพื้นที่ใกล้เคียงว่า ได้เน้นการแจกหน้ากากกับกลุ่มเสี่ยงเป็นหลัก เช่น คนขับรถสาธารณะ ผู้ที่อยู่ในแหล่งชุมชน และสถานพยาบาล จากการลงพื้นที่ พบว่าประชาชนบางคนรวมถึงนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันตกไม่นิยมใส่หน้ากาก ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะมีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อและมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้แพร่เชื้อ เนื่องจากการที่ไม่ป้องกันตนเองกำลังส่งผลแง่ลบต่อส่วนรวมทั้งหมด ดังนั้น จะประสานกับสถานทูตหลายประเทศให้เข้าใจสถานการณ์ของโรคว่าหากมาเที่ยวเมืองไทยต้องช่วยกันป้องกันโรคด้วย
"เรามีมาแจกมากมายขนาดนี้ สะท้อนว่าไม่ได้อยู่ในภาวะขาดตลาด ประเทศไทยสามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เฉลี่ยวันละประมาณ 1 ล้านชิ้น แต่จะมีใครกักตุนหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปจัดการเอง หากหาซื้อไม่ได้ หรือ หน้ากากที่ขายตามท้องตลาดมีราคาสูงเกินไป ให้มาซื้อที่ร้านค้าในเครือข่ายขององค์การเภสัชกรรม"นายอนุทิน กล่าว