นายกฯ สั่งตั้งคกก.พิจารณาแพคเกจเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง-ทางอ้อมจากเหตุกราดยิงที่โคราช

ข่าวทั่วไป Tuesday February 11, 2020 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ นอกเหนือไปจากการสำรวจสิทธิที่พึงจะได้รับตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระเบียบของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่จะมีเม็ดเงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นข้าราชการ และประชาชนทั่วไป ตลอดจนสิทธิภายใต้การดูแลของกรมสิทธิและคุ้มครองเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากนี้ หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นลูกจ้างหรือแรงงาน ก็จะได้รับการชดเชยจากสำนักงานประกันสังคมตามแต่ละกรณีและแต่ละสิทธิที่จะได้รับแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุการจ้างงานของแต่ละบุคคล ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ก็พร้อมจะนำมาตรการลงไปช่วยเหลือเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุนการศึกษา, การจ้างงาน, การเยียวยาผลกระทบทางด้านจิตใจ ฯลฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำให้คณะกรรมการฯ ที่จะจัดตั้งขึ้นนี้ลงไปดูรายละเอียดเป็นแพ็คเกจให้ครบถ้วน ซึ่งรวมไปถึงความช่วยเหลือที่จะให้ต่อผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน "สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ญาติ ทายาท รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม ที่อาจไม่ได้สูญเสียชีวิต ไม่ได้บาดเจ็บ แต่สูญเสียทรัพย์สิน และได้รับผลกระทบทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งหามาตรการเยียวยาสำหรับผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้รายงานสรุปเหตุการณ์ที่โคราชให้แก่ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบ และกล่าวถึงกรอบในเบื้องต้นของมาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย 4 ด้านคือ 1. มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง 2. มาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูจิตใจสำหรับญาติของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ 3. มาตรการสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชน และ 4. มาตรการเยียวยาและลดผลกระทบของผู้ประกอบการ "ทั้งหมดนี้ จะออกมาเป็นแพคเกจภายใต้การพิจารณาหารือของคณะกรรมการฯ ชุดที่ท่านนายกฯ มีบัญชาให้ตั้งขึ้น" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ