คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มีมติเห็นชอบให้ออกประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ลำดับที่ 14 เพื่อเพิ่มความสามารถในการควบคุมการระบาดของโรคนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 เนื่องจากไม่พบการระบาดในประเทศ
สำหรับโรคติดต่ออันตราย 13 โรค ได้แก่ 1.กาฬโรค 2.ไข้ทรพิษ 3.ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก 4.ไข้เวสต์ไนล์ 5.ไข้เหลือง 6. โรคไข้ลาสซา 7.โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ 8.โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 9. โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา 10.โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา 11.โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (โรคซาร์ส) 12.โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (โรคเมอร์ส) และ 13.วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 ยังไม่พบการระบาดในประเทศ แต่แนวโน้มการระบาดในประเทศต่างๆ มีมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการระบาดของประเทศไทย ในวันนี้ที่ประชุมฯ จึงมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ให้เพิ่มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ลำดับที่ 14
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถใช้ข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค สามารถควบคุมโรคได้มีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม โดยจะทำให้สามารถค้นหาผู้ป่วย สอบสวน และควบคุมโรคได้เร็ว โดยเจ้าบ้าน/ ผู้ควบคุมดูแลบ้าน/แพทย์ผู้ทำการรักษาที่บ้าน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล/ ผู้ทำการชันสูตร/ ผู้รับผิดชอบสถานที่ชันสูตร และเจ้าของ/ผู้ควบคุมสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ภายใน 3 ชั่วโมง
รวมทั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะมีอำนาจในการดำเนินการหรือออกคำสั่ง เช่น ให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุสงสัยว่าเป็นโรคมารับการตรวจชันสูตร แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต และกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ผู้ว่าราชการจังหวัด/กทม. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. มีอำนาจสั่งปิดตลาด สถานที่ประกอบการ โรงงาน สถานที่ชุมนุมชน โรงมหรสพ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดเป็นการชั่วคราว และสั่งให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรหยุดประกอบอาชีพเป็นการชั่วคราว
"ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก การประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าไทยควบคุมโรคไม่ได้จนเข้าสู่ระยะที่ 3 แต่มาตรการที่เราทำอยู่เป็นการทำงานเชิงรุก ล่วงหน้ามากกว่าสถานการณ์จริงไปอีกขั้นหนึ่ง ที่สำคัญจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าควบคุมโรคได้ทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายในวงกว้าง เช่นที่เกิดในบางประเทศ" นายอนุทินกล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการได้เห็นชอบแนวทางการปฏิบัติการเพื่อเป็นกรอบแนวทางให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีโควิด-19 และรายงานความก้าวหน้าต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย 6 มาตรการ ได้แก่ 1.การคัดกรองและเฝ้าระวังผู้ป่วยที่ช่องทางเข้าออกประเทศ สถานพยาบาล และในชุมชน 2.การดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันการติดเชื้อ 3.การติดตามผู้สัมผัสโรค 4.การสื่อสารความเสี่ยง 5.การใช้มาตรการทางสังคมและกฎหมาย และ 6.การประสานงานและจัดการข้อมูล