นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวหลังตรวจเยี่ยมการกระจายหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช ว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อติดตามการกระจายหน้ากากอนามัยของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่า กระทรวงสาธารณสุขจะรับไปวันละ 700,000 ชิ้นเพื่อนำไปกระจายให้กับโรงพยาบาลทั้งหมดทุกสังกัดจากจำนวนที่ผลิตได้วันละ 1.2 ล้านชิ้น ส่วนที่เหลืออีก 500,000 ชิ้น กรมการค้าภายในจะเป็นผู้กระจายไปสู่กลุ่มเสี่ยง เช่น บมจ.การบินไทย (THAI) , ผู้ป่วย และประชาชนทั่วไปโดยผ่านสมาคมร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ร้านธงฟ้า รวมถึงรถโมบาย 111 คัน
ส่วนกรณีมีข่าวผู้เรียกรับเงินใต้โต๊ะจากโรงงานผลิตชิ้นละ 1 บาท หากไม่จ่ายจะไม่ยอมให้ผลิตหน้ากากอนามัยนั้น นายจุรินทร์ กล่าวยืนยันว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้มีตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ไปอยู่ประจำอยู่ที่โรงงานแห่งละ 2 คน เพื่อตรวจสอบว่า วันหนึ่งผลิตได้เท่าไรให้ส่งตัวเลขมาที่ศูนย์ และศูนย์สั่งให้กระจายไปที่ไหน เท่าไรจะบันทึกไว้ทั้งหมด
"ตอนนี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว เจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะจัดการได้ โดยเป็นไปตามคำสั่งของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ซึ่งมีอธิบดีกรมการค้าภายในและรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้มีอำนาจ และตกลงร่วมกันกับตัวแทนโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย มาร่วมประชุมกัน และบริหารจัดการร่วมกัน" นายจุรินทร์ กล่าว
ด้าน นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ตอนนี้รพ.ศิริราชมีใช้ได้อีก 3 สัปดาห์ ถือว่าเสี่ยง แต่หลังจากที่ได้การจัดสรรวันนี้เป็นต้นไปก็ช่วยบรรเทาลงได้ ศิริราชไม่ได้ให้หน้ากากกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน แต่เฉพาะสายงานที่สัมผัสผู้ป่วยโดยตรง สำหรับกลุ่มเสี่ยงของศิริราชอยู่ที่ 15,000 คน รวมแพทย์และนักศึกษาแพทย์ ตัวเลขที่ขอจึงไม่ได้โอเวอร์ โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย cross check กันเองได้ ไม่ได้พยายามกักตุน เพราะเข้าใจสถานการณ์
ขณะที่ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลเอกชนขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างมาก แต่หลังจากประชุมร่วมกันแล้วได้รับการแก้ไขปัญหาทันที และได้รับโควตาอย่างชัดเจนวันละ 100,000 ชิ้น ต้องขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นอย่างมาก โดยโรงพยาบาลอยู่ใกล้ชิดกับคนไข้มาก ตรวจคนไข้วันละ 1,600 คน และพยายามให้ความรู้กับคนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงว่าให้ใช้หน้ากากผ้า เพราะประเทศเรามีกำลังการผลิตที่จำกัด และคนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องคัดกรองคนที่กลับมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ เช่น เชียงราย เรามีหน่วยพิเศษซึ่งต้องใช้สิ่งพวกนี้อยู่ และคนไข้ที่เป็นไข้ทุกคนจะได้รับหน้ากากที่จัดสรรมานี้ เพราะไม่ต้องการให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
"ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี และภาครัฐ ที่จัดสรรหน้ากากมาให้ เดิมที นโยบายไม่ชัด จึงเกิดกระแสขึ้นมาเมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้วว่า โรงพยาบาลเอกชนออกมาโวยวายว่า ทำไมเราไม่มีหน้ากาก ตอนนี้ท่านรัฐมนตรีมาทำกระบวนการที่ถูกต้อง และมองภาพใหญ่ชัดเจน สำหรับวันละ 100,000 ชิ้น ที่โรงพยาบาลเอกชนได้รับ จะจัดสรรให้โรงพยาบาลเอกชน 382 โรงจำนวน 60,000 ชิ้น โดยสมาคมจะเป็นตัวกลางในการจัดสรร ส่วนที่เหลือ 40,000 ชิ้น จะจัดสรรให้คลินิกทันตแพทย์ คลินิกหมอ เราจะหาวิธีจัดสรรไปสู่คลินิกทั่วประเทศ เพราะต้องป้องกันทุกคลินิก" นพ.เฉลิม กล่าว