พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงยืนยันผลตรวจพล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมยืนยันว่าพล.ต.ราชิต ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ
โดยปัจจุบันไม่มีไข้ ไข้ลง ตรวจไม่พบอาการผิดปกติทางปอด อยู่ระหว่างการแยกโรคที่โรงพยาบาล
ส่วนผลการตรวจครอบครัว ไม่พบเชื้อไวรัส ติดแพร่ไปยังครอบครัว จึงไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
ในขั้นการดำเนินการสอบสวนโรคผู้สัมผัสใกล้ชิด ในข้อเท็จจริง มีผู้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยง ที่เป็นผู้บังคับบัญชา ข้าราชการที่ร่วมปฎิบัติงาน ปัจจุบันมีรายชื่อทุกนายกว่า 36 รายอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูง และอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังประมาณ 60 ราย โดยมี 5 เสือทบ.อยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วย แต่ขอไม่ระบุรายชื่อ
"บุคคลเหล่านี้ปัจจุบันอยู่ที่บ้านแล้ว นับตั้งแต่ได้ดำเนินการสอบสวนโรค รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง ผู้ใกล้ชิด พลขับ เจ้าหน้าที่ที่โดยสารไปด้วยกันในรถ หรือผู้เกี่ยวข้องในระบบการทำงานและในสถานที่เสี่ยง ปัจจุบันควบคุมได้ และเก็บตัวที่บ้านทั้งหมด หากพบอาการไข้จะเรียกมา และมารายงานตัวเพื่อเข้ากระบวนการรักษาต่อไป"
พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการตอนนี้คือ การสืบขยายผลสอบสวนโรคอย่างรวดเร็ว ยิ่งเร็วมากที่สุดเราสามารถควบคุมได้ชัดเจนที่สุด นี่คือสิ่งที่กองทัพบกจะทำ โดยร่วมมือใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุข
"ปัจจุบันผู้มีเกณฑ์เสี่ยงสูงดังกล่าว นอกจากได้ดำเนินการติดตามสอบสวนโรคติดตามใกล้ชิด ปิดสถานที่ ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ และทำความสะอาด คือ สนามมวย ปิดไประยะหนึ่ง แม้ในกิจการกองทัพบก ส่วนใดที่สืบสวนโรคไปถึงก็จะดำเนินการทุกที่ไป"
นอกจากนี้ ส่วนอื่นๆ ตั้งแต่บัดนี้จะมีการเฝ้าระวังอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการปรับวิถีความเป็นอยู่ของทหาร และสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ การเดินแถว การเพิ่มระยะปลอดภัย การรับประทานอาหาร มีกระติกน้ำส่วนตัว นั่งหันหน้าไปทางเดียวกัน จัดเจ้าหน้าที่คัดกรองของหน่วยงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์กองทัพบกมีความพร้อมจะรับมือไวรัสโควิด-19 โดยจะเน้นมาตรการที่เป็นมาตรฐานเดียวกับกระทรวงสาธารณสุข โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้กองทัพเตรียมความพร้อมต่อเนื่อง กำลังพล สถานรักษาพยาบาล เครื่องมือที่มี และผบ.ทบ.มีนโยบายเปิดศูนย์ประสานงานทางการแพทย์ขึ้น มีกรมแพทย์ทหารบกเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยมีหน้าที่ประสานงาน กำหนดนโยบาย ให้ข่าว มีการบูรณาการผู้ประสานงานกับกระทรวงกลาโหม สาธารณสุข เหล่าทัพ เชื่อมโยงนโยบายของสาธารณสุข และเตรียมการรองรับการปฎิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19