นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้น 60 ราย
กลุ่มแรก เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเดิม รวม 43 ราย แยกเป็น 1) กลุ่มสนามมวย 12 ราย ทั้งเวทีมวยลุมพินี, เวทีมวยราชดำเนิน และเวทีมวยจิตเมืองนนท์ ซึ่งผู้ติดเชื้อมีทั้งผู้ดูแลค่ายมวย, เจ้าหน้าที่สนามมวย, ผู้เข้าชม และญาติของผู้เข้าชม 2) กลุ่มสถานบันเทิง 14 ราย ทั้งจากย่านทองหล่อ, สวนหลวง, รามคำแหง, สุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งผู้ติดเชื้อมีทั้งดีเจ, พนักงานเสิร์ฟ, พ่อครัว, รองผู้จัดการ และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ 3) กลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายเดิม 12 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อมีทั้งเพื่อนร่วมงาน, สามี-ภรรยา, ผู้โดยสารจากสนามบิน, ลูกเรือ, แอร์โฮสเตท, พนง.คาร์โก และผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย 5 ราย จากจ.ปัตตานี และจ.ยะลา
กลุ่มที่สอง เป็นผู้ป่วยใหม่ 17 ราย แบ่งเป็น 1) ผู้เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 9 ราย ซึ่งกลับมาจากไต้หวัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิหร่าน, อิตาลี, อินเดีย, มาเลเซีย, กัมพูชา และญี่ปุ่น 2) ผู้ทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ 3 ราย คือ ครูพี่เลี้ยง, พนง.เคาท์เตอร์เช็คอิน, เพื่อนชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในคอนโดฯ 3) ผู้ที่อาศัยหรือทำงานในสถานที่ใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก 1 ราย คือ เทรนเนอร์ในฟิตเนส และ 4) ผู้ที่อยู่ระหว่างรอผลสอบสวน 4 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้สื่อข่าว 1 ราย
ส่วนผู้ป่วยอีก 3 ราย อาการยังอยู่ในภาวะวิกฤติ คือ 1.ชายไทยอายุ 49 ปี รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ใน จ.สุราษฎร์ธานี 2.ชายชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ใน จ.เพชรบูรณ์ และ 3.ผู้ป่วยที่มีอาการวัณโรคร่วมด้วย รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
สำหรับกลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศอิตาลี ซึ่งอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี 83 คน ทั้งหมดไม่มีไข้ ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการ จนครบ 14 วัน
ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมวันนี้ รวมเป็น 272 ราย แยกเป็น กลับบ้านแล้ว 42 ราย รักษาตัวในรพ. 229 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-18 มี.ค.63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 8,157 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 305 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 7,852 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 5,106 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 3,051 ราย
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มของสนามมวย และสถานบันเทิง รวมกันแล้วกว่า 100 ราย โดยเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อจากสนามมวย 52 ราย และติดเชื้อจากสถานบันเทิง 57 ราย ซึ่งในส่วนของสนามมวยนั้น ผู้ติดเชื้อยังได้เดินทางไปจังหวัดต่างๆ และนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนใกล้ชิด รวมทั้งไปในที่ที่แออัด ไม่กักตัวเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ จนทำให้นำไปสู่การแพร่ระบาดของโรค และทำให้การป้องกันโรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก
"ผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 75-80% ยังทราบแหล่งที่มาว่าติดมาจากไหน ยังอยู่ในวงจำกัด ยังสัมพันธ์กับสนามมวย สถานบันเทิง ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ ก็ชัดเจนว่าเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และแม้จะเจอผู้ป่วยรายใหม่ที่เป็นผู้สัมผัส ส่วนใหญ่อาการไม่มาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้เลี่ยงการเดินทางไปสถานที่แออัด เพราะมีความเสี่ยงสูง" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น สถานบริการ และสถานที่อื่นๆ ที่เข้าข่ายเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้เข้าชมในสนามมวยที่มาตรวจ ส่วนใหญ่จะมีผลเป็นลบมากกว่าผลเป็นบวก แต่ต้องเฝ้าระวังตัวเองต่อเนื่องอีก 14 วัน และคาดว่าจะยังคงพบผู้สัมผัสที่ตรวจแล้วติดเชื้อไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่องไปอีกสักระยะ แต่ทั้งนี้ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้มีการประกาศให้ปิดพื้นที่เสี่ยงแล้ว เป็นการปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เราก็ดำเนินการสอบสวนค้นหา ดังนั้นจึงเจอผู้ติดเชื้อแบบนี้ไปอีกระยะ แต่ยังเป็นกลุ่มก้อนของการระบาดที่ทราบแหล่งที่มา และต้นตอ" อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุ