พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมเชิญบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวด้านโรคระบาดที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาให้คำแนะนำ อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีสธ. นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น เพื่อช่วยแก้วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เนื่องจากเคยผ่านการทำงานในช่วงเกิดโรคระบาด เช่น ไข้หวัดนก ซาร์ส เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้แม้จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ก็ต้องชื่นชมระบบคัดกรองการติดตามของเราที่สามารถติดตามผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อได้มากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทราบว่าเริ่มการแพร่ระบาดจากจุดใด เช่น สนามมวย หรืออาจจะเป็นบาร์ ผับต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากการรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญก็จะนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องทำได้จริงในระยะต่อไป ซึ่งกระบวนการแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายและสถานการณ์
ดังนั้น ในช่วง 14 วันนี้อยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด และประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลประกาศไปแล้วให้ทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก
ในด่านชายแดนรอบประเทศไทยจะมีการปิดช่องหรือไม่อยู่ที่อำนาจผู้ว่าฯ เพราะได้ให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานเข้ามา หากทำไม่ได้ก็คงต้องย้ายออกจากพื้นที่
"ผมยืนยันว่าทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่มีการติดโรค ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงมาแล้วและเป็นข่าว ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบคัดกรองทั้งสิ้น ต้องติดตามตัวให้ครบ และอย่างที่ได้บอกแล้วว่ารัฐบาลห้ามจัดคอนเสิร์ตในช่วงนี้ ฉะนั้น ขอความร่วมมือด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้รัฐบาลได้ประกาศมาตรการไปแล้ว 6 มาตรการ ซึ่งเป็นการให้อำนาจกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯ กทม. สามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมจากกรอบใหญ่ที่ให้ไป เช่น การปิดสถานที่ต่างๆ วันนี้ให้ไปในเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะปิดในต่างจังหวัดก็ได้ถ้าเป็นสถานที่ที่เข้าข่ายที่มีความเสี่ยง ผับต่างๆ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าจังหวัดที่มีข่าวเรื่องผับใหญ่ก็ปิดไปแล้วมีอำนาจในการปิดตรงนี้ การปิด 14 วันเมื่อจะเปิดใหม่ต้องไปสอบตรวจว่ามีความปลอดภัย ความพร้อมเพียงพอหรือไม่ ถ้ายัง ก็สามารถขยายอีกได้นั่นคืออำนาจที่ผมได้ให้กับพื้นที่ไปแล้ว"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. )ได้มีการคัดกรองทุกคนก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม และสังเกตอาการของ ครม.ทุกคนอยู่แล้ว โดยขณะนี้เห็นว่ายังไม่จำเป็นให้มีการประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์