กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยเสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ราย โดย 3 รายที่เพิ่มเข้ามาในวันนี้เป็นคนไทย รายแรก ชายวัย 70 ปีที่มีโรควัณโรคร่วมด้วย, รายที่ 2 ชายวัย 79 ปีเกี่ยวข้องการติดเชื้อจากสนามมวย ซึ่งมีอาการหนักตั้งแต่แรกรับเข้ามาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค ส่วนรายที่ 3 เป็นชายวัย 45 ปี มีภาวะเบาหวานและโรคอ้วน
ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้มีเพิ่มขึ้น 106 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในไทยเพิ่มเป็น 827 ราย กลับบ้านได้แล้ว 57 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 766 ราย และยังมีผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 4 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มขึ้น 106 รายดังกล่าว แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ดังนี้ กลุ่มแรก 25 ราย เป็นผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายเดิม แบ่งเป็น 1) ผู้ป่วย 5 รายที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยในกลุ่มสนามมวย ทั้งสนามมวยลุมพินี สนามมวยราชดำเนิน ทั้งผู้ชมและเซียนมวย ในกรุงเทพฯ, นครปฐม, สมุทรสาคร และอุบลราชธานี 2) ผู้ป่วย 6 รายมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยกลุ่มสถานบันเทิง ทั้งย่านทองหล่อ, RCA, นานา ทั้งนักท่องเที่ยว พนักงานเสิร์ฟ ในจังหวัดสระบุรี, กรุงเทพฯ, บุรีรัมย์ และชลบุรี 3) ผู้ป่วย 12 ราย ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยรายเดิม มีทั้งพนักงานขายเสื้อผ้า, เซียนมวย, พนักงานบริการ, ราชการ ที่มีประวัติร่วมรับประทานอาหาร, ดื่มสุราร่วมกับผู้ป่วยในกลุ่มสถานบันเทิง และมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยในกลุ่มสนามมวย 4) ผู้ป่วย 2 รายจากปัตตานีเดินทางไปร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย
กลุ่มที่สอง 34 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ ประกอบด้วย 1) เป็นกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 20 ราย แบ่งเป็น คนไทย 8 ราย เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน, นักศึกษา, พนักงานร้านค้าที่ปอยเปต และชาวต่างชาติ 12 ราย คือ ฝรั่งเศส, สวีเดน, ปากีสถาน, อังกฤษ และนิวซีแลนด์ 2) เป็นกลุ่มที่ทำงานหรืออาศัยในที่แออัด 10 ราย และมีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยชาวต่างชาติ เช่น รปภ., พนักงานรับรถ, พนักงานขับรถรับนักท่องเที่ยว, คนขับแท็กซี่, พนักงานเสิร์ฟ, มักคุเทศก์ และพนักงานที่ทำงานในสถานบันเทิง โดยอยู่กรุงเทพฯ จันทบุรี ชลบุรี บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ภูเก็ต นครราชสีมา 3) บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย เป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ นครปฐม
กลุ่มที่สาม 47 ราย ได้รับผลจากห้องแล็ปยืนยันพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างการสืบสวนโรค และรอประวัติ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อมูลสถานที่ชุมชนที่มีการประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตนเองใน 25 แห่งใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ขอนแก่น กรุงเทพฯ สงขลา นครราชสีมา นนทบุรี และสุรินทร์ โดยผู้ที่อยู่ในสถานที่และช่วงเวลาตามประกาศ ให้รายงานตัวต่อพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ.โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และผู้นำชุมชนทัน โดยให้กักตัวเอง และสังเกตอาการ 14 วัน หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลการประกาศสถานที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ได้ที่ เพจไทยรู้สู้โควิด และเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค