พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ ที่ประชุมฯ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมความพร้อมรับและปฏิบัติตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้เป็นระยะเวลา 1 เดือน และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 มี.ค.63 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดทำร่างแผนบริหารความต่อเนื่องขององค์กรในการบริหารงานในสภาวะวิกฤต (Business Continuity Plan : BCP) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์วิกฤต เพื่อให้หน่วยงานสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลกระทบจากการหยุดชะงักในการดำเนินงาน ลดความเสียหาย หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยให้คณะทำงานพิจารณารายละเอียดร่างแผนฯ ดังกล่าวก่อนจะมีการนำมาใช้ปฏิบัติจริง
ทั้งนี้ จะพิจารณาแบ่งลักษณะงานออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ ประเภทที่ 1 งานที่หน่วยงานจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถหยุดได้ และไม่สามารถปฏิบัติจากที่บ้านได้ เช่น งานทะเบียน งานรักษาความปลอดภัยและช่วยเหลือประชาชน งานรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เป็นต้น ประเภทที่ 2 งานที่สามารถปฏิบัติงานจากที่บ้านได้ (Work from Home) โดยใช้ระบบงานพื้นฐาน เช่น การใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาสนับสนุนการทำงานเพื่อให้สะดวกขึ้น และเป็นงานที่ไม่ควรหยุดชะงักเป็นเวลานาน หรือเป็นงานที่สามารถมาปฏิบัติที่หน่วยงานได้เป็นครั้งคราวเท่าที่จำเป็น ซึ่งส่วนมากจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร เช่น งานธุรการ งานจัดทำแผน ฯลฯ และประเภทที่ 3 งานที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน สามารถชะลอ หรือระงับการดำเนินงานชั่วคราวได้ เช่น งานจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เป็นต้น
โดยเมื่อวิเคราะห์งานตามความสำคัญ หรือความจำเป็นเร่งด่วนของงานที่ต้องมาปฏิบัติในกรณีเกิดโรคระบาดแล้ว จะกำหนดแนวทางการปรับเปลี่ยนการทำงาน และสถานที่ปฏิบัติงานต่อไป