นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงร่วมกับคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคระดับจังหวัด จับกุมดำเนินคดีผู้ขายไข่ไก่ในข้อหาค้ากำไรเกินควรอย่างเด็ดขาด โดยได้จับกุมฟาร์มไข่ไก่ชนมพร ฟาร์ม อ.บางเลน จ.นครปฐม ขายไข่ไก่หน้าฟาร์มสูงถึงฟองละ 3.80 บาท จากปกติฟองละ 2.80 บาท และกนกวรรณฟาร์ม อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละ 3.20 บาทต่อฟอง จากปกติฟองละ 2.80 บาท ซึ่งได้ดำเนินคดีค้ากำไรเกินควรแล้ว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ค้าปลีกได้จับกุมทั่วประเทศหลายรายเพราะค้ากำไรเกินควร และไม่ปิดป้ายแสดงราคา เช่น เขตราชเวที กรุงเทพฯ ขายไข่ไก่เบอร์ 0 แผง (30 ฟอง) ละ 200 บาท, อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จับกุมไม่ปิดป้ายแสดงราคา แต่รายที่จ.จันทบุรี ยังโดนข้อหาค้ากำไรเกินควรด้วย เพราะจำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 0 แผงละ 180 บาท เบอร์ 1 แผงละ 170 บาท และเบอร์ 2 แผงละ 160 บาท, อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จับกุมผู้ค้าไข่ไก่เบอร์ 0 แผงละ 180 บาท และจ.อ่างทอง ขายไข่ไก่เบอร์ 0 แผงละ 180 บาท
"ฝากเตือนผู้คิดจะทำผิดกฎหมาย ฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากภัยโควิด-19 โดยไม่อยากเห็นภาพการแสวงหาประโยชน์ ซ้ำเติมความทุกข์ประชาชน เพราะเมื่อถูกดำเนินคดีแล้ว ศาลพิพากษาจำคุกจริงๆ จึงไม่ควรเห็นกับประโยชน์เฉพาะหน้าที่ได้มา เพราะไม่คุ้มกัน โดยกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการกับผู้ค้าทุกทอดที่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร" นายจุรินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนซื้อไข่ไก่ในปริมาณเท่าที่จำเป็น เมื่อหมดแล้วค่อยออกมาซื้อใหม่ จะได้ช่วยให้ทุกคนมีไข่บริโภค เพราะจากการติดตามสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ในช่วงที่ผ่านมาของกรมการค้าภายใน พบว่า มีการซื้อเพิ่มขึ้นจากปกติสูงขึ้น 3 เท่า
สำหรับการห้ามส่งออกไข่ไก่นั้นได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 เป็นระยะเวลา 7 วัน ซึ่งได้เรียกประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เป็นการเร่งด่วน เพื่อออกประกาศห้ามส่งออกไข่ไก่ และให้มาตรการมีผลบังคับใช้ ซึ่ง กกร.ได้เห็นชอบ และยังได้ให้อำนาจ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธาน กกร.ใช้ดุลพินิจขยายระยะเวลาการห้ามส่งออกได้แต่ไม่เกิน 30 วันนับจากวันออกประกาศ หากมีความจำเป็นต้องห้ามนานกว่านี้ก็ต้องขออนุญาต กกร.อีกครั้ง