พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นกังวลกับสถานการณ์การไหลเข้ามาของยาเสพติดจำนวนมากตั้งแต่ต้นปี แม้สามารถสกัดกั้นจับกุมได้จำนวนมาก โดยได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เกาะติดทำลายเครือข่ายและเพิ่มความเข้มข้นบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมากขึ้นระดับพื้นที่กับทั้งผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้เสพต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะกับกลุ่มรักสนุกที่ยังคงลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติดและสิ่งมึนเมาที่ยังคงมีในหลายพื้นที่ เกรงสุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เป็นเหตุให้จำนวนประชาชนที่ติดเชื้อเพิ่มทะยานมากขึ้นจนยากจะควบคุม พร้อมกำชับดูแลเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด
เพราะถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ในภาวะวิกฤตที่สังคมคุมเข้มเฝ้าระวังร่วมกัน แต่สถานการณ์ยาเสพติดตั้งแต่ต้นปี 63 เป็นต้นมายังมีความพยายามลักลอบขนย้ายลำเลียงยาเสพติดทางอากาศจากยุโรปและผ่านชายแดนทางบกและทางน้ำเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในชุมชนเมืองยังพบการลักลอบมั่วสุมเสพกันอย่างมึนเมาในหลายพื้นที่ โดยในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.63 เจ้าหน้าที่สามารถนำสืบจับกุมและยึดยาเสพติดได้จำนวนมากในแต่ละครั้งเป็นยาบ้าจำนวนถึง 41 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 2,457 กิโลกรัม รวมทั้งเฮโรอีน ฝิ่น กัญชา และกระท่อมอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ชื่นชมการปฏิบัติงานของทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส. ที่ร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลอย่างแข็งขัน โดยสามารถประสานทำลายแหล่งผลิตครั้งใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสกัดกั้นการเข้ามาตามแนวชายแดนและกวาดล้างจับกุมในพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก