พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดตั้งจุดตรวจฯ ผู้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ บริเวณรอยต่อกรุงเทพฯ กับจังหวัดปริมณฑล จำนวน 12 จุด ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาหารือกับกรุงเทพมหานคร โดยขอจัดตั้งจุดตรวจฯ เพิ่มอีกหนึ่งแห่งบนถนนบรมราชนนีรอยต่อจังหวัดนครปฐม บริเวณ จุดตัด ถ.พุทธมณฑลสาย 3 ตัด ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจ รายงานผลการปฏิบัติงานในแต่ละวันของจุดตรวจฯ ทุกแห่งต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ฯ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือกรณีที่ประชาชนบางส่วนมีความประสงค์จะฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อโควิด – 19 บริเวณบ้านเรือนตนเองหรือพื้นที่ต่างๆ ซึ่งโดยปกติกรุงเทพมหานครจะฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด – 19 บริเวณบ้านเรือนหรือชุมชนต่างๆ ที่พบผู้ติดเชื้อฯ หรือพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อฯ เกี่ยวข้อง หากประชาชนประสงค์ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อโควิด – 19 ในบ้านเรือนของตนเอง สามารถดำเนินการเองได้ แต่การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ผู้ที่ทำการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อจะต้องมีความรู้ในการดำเนินการ มีการสวมใส่ชุดป้องกันอย่างมิดชิด เนื่องจากน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด – 19 อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ และหลังจากการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด – 19 แล้วเพื่อความปลอดภัยควรออกจากสถานที่ฉีดพ่นอย่างน้อยประมาณ 30 นาที เพื่อให้สารเคมีดังกล่าวหมดฤทธิ์การระคายเคืองเสียก่อน ทั้งนี้สารเคมีบางชนิดอาจเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้าดวงตา อย่างไรก็ดี การซักเสื้อผ้าด้วยผงซักฟอก ชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ แชมพู ก็เพียงพอแล้วสำหรับการป้องกัน