นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับประเทศไทย และประชาชนทุกสาขาอาชีพ รวมถึงธุรการบินด้วยนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบสายการบินบางสายการบินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ตามประกาศการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
ปัจจุบัน กรมท่าอากาศยานได้รับแจ้งจากสายการบินขอหยุดให้บริการชั่วคราว ที่ท่าอากาศยานของกรมท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานน่านนคร ท่าอากาศยานเลย ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ท่าอากาศยานนครพนม ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ท่าอากาศยานแพร่ ท่าอากาศยานแม่สอด ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ท่าอากาศยานระนอง และท่าอากาศยานชุมพร สำหรับท่าอากาศยานนราธิวาส ได้ออกประกาศ NOTAM ปิดให้บริการ ตั้งแต่วันวันที่ 29 มีนาคม 2563 จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย
และท่าอากาศยานหัวหิน ได้แจ้งหยุดให้บริการ เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์ - หัวหิน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคม - 17 พฤษภาคม 2563 จากการประกาศปิดประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตา ท่าอากาศยานยังคงเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินฉุกเฉิน เที่ยวบินราชการ และเที่ยวบินขนส่งสินค้าอุปโภคและเวชภัณฑ์ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
ส่วนท่าอากาศยานที่สายการบินแจ้งบริการได้ตามปกติ แต่มีแจ้งลดจำนวนเที่ยวบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานตรัง ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานสกลนคร ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ท่าอากาศยานลำปาง ( ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2563 )
นายทวี กล่าวเสริมว่าท่าอากาศยานที่ยังคงเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารตามปกติ ทย. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยการตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมให้ผู้โดยสารกรอกใบรายละเอียดการเดินทาง (ต.8) การจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ การกำหนดจุดยืนในขณะตรวจบัตรโดยสาร (Social distancing) แจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนใส่หน้ากากอนามัยตลอดการใช้บริการ
พร้อมทั้งจัดจุดบริการเจล แอลกอฮอล์แก่ผู้โดยสาร ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโวรัสโควิด 19 และได้เน้นย้ำพนักงานทำความสะอาดให้เพิ่มรอบการปฏิบัติงานให้มากขึ้น โดยได้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดเก้าอี้ ราวบันได รวมถึงอุปกรณ์การปฏิบัติงาน สุขภัณฑ์ และหลังจากหมดเที่ยวบินได้พ่นยาน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณต่าง ๆที่มีการใช้งานของอาคารท่าอากาศยาน
ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อผ่านการตรวจสอบตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ตรวจสอบตารางบินของสายการบินก่อนการเดินทางทุกครั้ง โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้สายการบิน ดังนี้
สายการบินนกแอร์ Call Center 1318
สายการบินไทยสมายล์ Call Center โทร. 1181 หรือ 02-118-8888 ตลอด 24 ชั่วโมง
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส Call Center โทร 1771 หรือ 02-270-6699 ตลอด 24 ชั่วโมง
สายการบินไทยเวียตเจ็ท Call center 02-089-1909