นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อโซเชียลโพสต์ข้อความว่า กรมควบคุมโรคมีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขที่รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามรายงานในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค นั้น กรมควบคุมโรค ขอชี้แจงว่า การดำเนินงานด้านข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด-19 มีความโปร่งใสตามมาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโรคในปัจจุบัน ไม่ได้อยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น มีการแพร่กระจายของโรคไปในหลายพื้นที่ในประเทศไทย จึงมีการขยายเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจยืนยันเชื้อโควิด-19 ไปในทุกภูมิภาค
นายแพทย์โสภณ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีห้องปฏิบัติการที่มีความพร้อมในการตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีในเดือนมกราคม 2563 ทำให้มีการส่งตรวจหาเชื้อในผู้ที่เข้าข่ายผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวน (PUI) เพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค จะได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกรายที่มีการออกรหัสการตรวจ ทั้งที่มีผลการตรวจพบเชื้อและไม่พบเชื้อ โดยตัวอย่างที่มีผลบวกพบเชื้อโควิด-19 จะได้รับการรายงานเข้ามาทันที เพื่อใช้ประโยชน์ในการสอบสวนควบคุมโรค
ส่วนผลการตรวจที่เป็นลบมีเป็นจำนวนมาก ห้องปฏิบัติการจะทยอยรายงานเข้ามาในระบบโปรแกรมอิเลกโทรนิกส์จึงอาจล่าช้าและยังไม่ครบถ้วนทันที ทำให้มียอดค้างว่ารอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งปัจจุบันมีการปรับปรุงยอดการรายงานแล้ว เพื่อลดความสับสนในการนำข้อมูลไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าข้อมูลผู้ป่วยจะไม่ตกหล่น เพราะตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 หากผู้ป่วยรายใดมีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ โรงพยาบาลจะทำการแจ้งข้อมูลผู้ป่วยทุกรายมายังศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมงอยู่แล้ว เพื่อเริ่มทำการสอบสวนและควบคุมโรคตามขั้นตอนทันที และใช้สรุปเผยแพร่สถานการณ์ให้ประชาชนทราบเป็นประจำทุกวัน