นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ชาวไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้จำนวน 158 ราย ปฏิเสธให้ความร่วมมือในการกักตัวเองในสถานที่ที่รัฐจัดเตรียมไว้ เพราะความไม่เข้าใจ และมีการต่อรอง อ้างเหตุไม่ได้รับทราบมาก่อน
ทำให้นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมเช้านี้ และมีคำสั่งให้ติดตามตัว 158 รายที่ทราบมีที่อยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และชลบุรี ซึ่งทางตำรวจรับทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม มีจำนวน 6 รายได้เข้ามารายงานและกักตัวเองอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนที่เหลืออีก 152 รายให้รายงานตัว โดยผู้ที่พำนักในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้รายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID-19) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ ส่วนผู้ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงชัยธรรม ณ ศาลากลางจังหวัดภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ ครอบครัวของผู้ที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อคืนนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านอย่างเคร่งครัด ขณะที่กลุ่มคน 158 รายทางรัฐจะดูแลเป็นอย่างดีให้เข้าพักในโรงแรม
ทั้งนี้ ชาวไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้มี 158 ราย แบ่งเป็นกลับจากประเทศญี่ปุ่น 103 ราย กาตาร์ 11 ราย และสิงคโปร์ 44 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างเดินทาง หรืออยู่ระหว่าง transit เป็นผู้ติดค้างต่างประเทศ เพราะเข้าประเทศไม่ได้เนื่องจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)ห้ามอากาศยานบินเข้าไทยชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4-6 เม.ย.63 นั้น ให้ติดต่อสถานฑูตในประเทศนั้นๆ ภายใน 3 วันนี้ เพื่อไม่นำเข้าเชื้อมาที่ไทย เหตุเพราะกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าแหล่งที่มาของโรคไวรัสโควิด-19 มาจากคนที่เดินทางจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือกัน