น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เอกอัครราชทูตและหัวหน้าสำนักงานผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย จะขอส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้ามาดูการเลือกตั้งของไทยที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การพิจารณาเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะเป็นผู้ตัดสินใจ
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวไม่ใช่เหตุผลที่ทางอียูจะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของไทย เพราะเมื่อปี 48 กกต.เคยทำหนังสือเชิญให้ตัวแทนอียูเข้ามาสังเกตุกรณ์การเลือกตั้งมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ทางอียูไม่พร้อม เพราะคำเชิญกระชั้นชิดเกินไป
สำหรับการส่งคณะผู้แทนของอียูเข้ามาครั้งนี้จะมี 4 ขั้นตอน คือ การส่งคณะสำรวจล่วงหน้า การเซ็นMOU 2 ฉบับระหว่างรัฐบาลไทยและคณะกรรมาธิการอียู และระหว่าง กกต.กับคณะกรรมาธิการอียู หลังจากนั้นคณะผู้สังเกตการณ์อียูเต็มคณะประมาณ 100-150 คนจะเข้ามาสังเกตการณ์ และขั้นตอนการประเมินผล
น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า กรรมาธิการอียูระบุว่าการส่งคณะเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งอย่ามองว่าเป็นเรื่องของความไม่เชื่อใจ แต่เพื่อความเป็นมิตรภาพและความเชื่อมั่น นอกจากนั้นยังได้สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงกระบวนการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่ารัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติ และยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--