นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์ ผู้นำด้านดิจิทัลไลฟ์เพื่อคนไทย เดินหน้าจัดทัพองค์กร ทุ่มสรรพกำลัง ทั้งเครือข่าย เทคโนโลยีสำคัญใหม่ล่าสุดอย่าง 5G และ พลังของ "คน" เอไอเอส ร่วมพาคนไทยฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 ล็อคเป้านำ 5G สนับสนุนบริการทางการแพทย์ และงานสาธารณสุข
ทั้งนี้ 3 ภารกิจ "AIS 5G สู้ภัย COVID-19" เพื่อคนไทย โดยใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ได้แก่
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ใน 20 รพ. ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และกำลังขยาย Coverage 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ รพ. ในกทม.และปริมณฑลอีก 130 รพ. และในต่างจังหวัดอีก 8 รพ. รวมทั้งสิ้น 158 รพ. ภายในเดือนเมษายน 2563 เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเทคโนโลยีและโซลูชันส์ทางการแพทย์ ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการตอบสนองที่รวดเร็วอย่างยิ่ง 5G จึงเป็นโครงข่ายที่เหมาะสม เพราะทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิต นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนระบบสื่อสาร ทั้ง AIS FIBRE, 4G, AIS Super WiFi และสมาร์ทดีไวซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรพ.
2. ผลักดันนวัตกรรมการแพทย์ในช่วงการระบาดโควิด-19 ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ระดมนักวิจัยนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine และโซลูชันส์งานบริการทางแพทย์ ผลงานแรกที่พัฒนาได้สำเร็จ คือ หุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G ในชื่อ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว เตรียมส่งมอบให้กับ 20 รพ. ข้างต้น
3. พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine เวอร์ชั่นใหม่ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว โดย AIS Robotic Lab ทยอยส่งมอบให้กับรพ. 20 แห่ง ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ รพ. จุฬาลงกรณ์, รพ. ราชวิถี, รพ. ศิริราช, รพ. รามาธิบดี, รพ. วิชัยยุทธ, รพ. ศิริราชปิยมหาราชการุณย์, รพ. แพทย์รังสิต, รพ. พญาไท 1, รพ. พญาไท 2, รพ. พญาไท 3, รพ. พญาไทนวมินทร์, รพ. กรุงเทพคริสเตียน, รพ. พระราม 9, รพ. เปาโลเมโมเรียลพหลโยธิน (สะพานควาย), รพ. เปาโลเมโมเรียลโชคชัย 4, รพ. เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ, รพ. เปาโลเมโมเรียลรังสิต, รพ. เปาโลเมโมเรียลเกษตร,กรมแพทย์ทหารเรือ และสถาบันบำราศนราดูร เพื่อให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาล ตรวจคัดกรองคนไข้ ด้วยระบบอัจฉริยะ Thermoscan, ระบบปรึกษาทางไกลระหว่างคนไข้และหมอผ่าน VDO CALL โดยที่หมอกับคนไข้ไม่ต้องอยู่ในห้องเดียวกัน หรือสัมผัสใกล้กัน โดยสามารถบังคับหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่ผ่าน 5G ช่วยแบ่งเบาภาระ ลดการแออัด และลดเสี่ยงติดเชื้อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแทพย์
"วิกฤติในครั้งนี้ ทุกคนมีส่วนร่วมในการนำประเทศชาติ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปพร้อมกันได้... สำหรับเอไอเอสในฐานะภาคเอกชนซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแล "Digital Infrastructure" ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มหัวใจสำคัญของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานที่กำลังทำงานอยู่ที่บ้าน Working from home, นักเรียน นักศึกษา Learning from Home และสำคัญสุดคือ งานบริการสาธารณสุขและสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ต้องรองรับการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเรา ล้วนแล้วแต่ใช้ Digital Infrastructure เป็นสื่อกลางทั้งสิ้น
ผมเน้นย้ำเสมอว่า หน้าที่ของชาวเอไอเอสทุกคนที่คิดอยู่ในทุกลมหายใจ คือจะต้องรักษาเครือข่ายและบริการของเราอย่างดีที่สุด บริการของเราต้องต่อเนื่องด้วยคุณภาพมาตรฐานของเอไอเอสเช่นเดิม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เรายังคงยืนหยัดและตั้งมั่นในฐานะ Digital life service provider for Thais เช่นเดิม ว่าเราจะทำหน้าที่ให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด และพร้อมนำศักยภาพและขีดความสามารถต่างๆ ที่เรามีร่วมสนับสนุนภารกิจของประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้" นายสมชัย กล่าว