พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับหน้าที่ว่า ได้หารือเกี่ยวกับนโยบายเชิงรุกเพื่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) แพร่ระบาดคลี่คลาย โดยนายกรัฐมนตรีขอให้มองความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทยที่ยังมีโอกาสในความร่วมมือระหว่างกันอีกมาก
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกๆ ด้าน ทั้งทางด้านความมั่นคง เป็นสาขาที่มีความร่วมมือกันมาอย่างยาวนานและแนบแน่น และด้านการสาธารณสุข เป็นสาขาความร่วมมือสำคัญที่พัฒนามายาวนานหลายทศวรรษ โดยสหรัฐฯ มีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ (CDC) มีสำนักงานนอกสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือในทุกด้าน โดยขอให้คำนึงถึงไม่เพียงแต่ความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ แต่เป็นความร่วมมือกับทุกประเทศทั่วโลก
ด้านเอกอัครราชทูตฯ สหรัฐ กล่าวชื่นชมมาตรการของรัฐบาลไทย ที่ส่งผลให้มีแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นแนวราบ ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลผู้อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากความปรารถนาดี ความห่วงใยไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และภริยา ให้กำลังใจในการบริหารประเทศเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในเร็ววัน พร้อมกับขอบคุณสหรัฐฯ ที่ได้มอบอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล (PPE) ให้ประเทศไทย รวมทั้งขอให้กำลังใจซึ่งกันและกันในช่วงเวลาของความท้าทายนี้