(เพิ่มเติม) COVID-19: ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 54 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

ข่าวทั่วไป Thursday April 9, 2020 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 54 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมรวม 2,423 ราย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 32 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 940 ราย

ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายสัญชาติฝรั่งเศสวัย 74 ปี เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.มีอาการไข้ ไอ หอบเหนื่อย เข้ารักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัดชลบุรี จากนั้นมีอาการปอดอักเสบตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อมาวันที่ 7 เม.ย.มีอาการหอบเหนื่อยและต้องใส่ท่อจนกระทั่งเสียชีวิตในวันเดียวกัน

ส่วนรายที่ 2 เป็นชายไทยวัย 82 ปี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ด้วยอาการไข้ 38.5 องศาฯ ไอ หอบเหนื่อย เข้ารักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นในวันที่ 30 มี.ค.มีอาการเหนื่อยมากขึ้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 8 เม.ย.

พร้อมยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีแผนปรับเวลาเคอร์ฟิว ยังคงไว้ที่ 4 ทุ่มถึงตี 4 แต่อาจมีผ่อนผันบางอาชีพเพิ่มเติม

ขณะที่ผลการปฏิบัติเคอร์ฟิวช่วงคืนวันที่ 8 เม.ย.ต่อเนื่องวันที่ 9 เม.ย.เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ฝ่าฝืน 1,204 ราย โดยมีการออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุสมควร และรวมกลุ่มมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ดูแลตัวเองและสังคมโดยพยายามดูแลตัวเองไม่ให้ป่วย

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ตที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีมาตรการเฉพาะไปยังกลุ่มเป้าหมายซึ่งสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดเชื้อได้ดี ส่วนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อนั้นได้กำชับให้ป้องกันและดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต้องการให้บริการประชาชน ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศมีแนวโน้มมากขึ้นซึ่งจะมีมาตรการกวดขันดูแลมากขึ้น

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการเดินทางเข้าออกของคนไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่ามีคนไทยที่ลงทะเบียนแสดงความต้องการเดินทางกลับประเทศ 14,664 คน เหลือยังรอเดินทางกลับ 5,453 คน ส่วนด่านชายแดนติดประเทศมาเลเซียเคยแจ้งไว้ 4,000 คน แต่จะกลับจริงเห็นหมื่นคนหลังจากมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ขณะที่หน่วยงานสามารถรองรับได้เฉลี่ยวันละ 200 คน ดังนั้น ศบค.จึงกำหนดแนวทางให้ผู้ที่มีสุขภาพดีและไม่เดือดร้อนเรื่องที่พักชะลอการเดินทางกลับซึ่งภาครัฐจะจัดงบประมาณสนับสนุนให้ เพราะหากเดินทางเข้ามาอาจเสี่ยงติดเชื้อในระหว่างทางได้

สำหรับพื้นที่รองรับการกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศนั้นปัจจุบันใน กทม.มีจำนวน 2,037 ห้อง ซึ่งต้องจัดหาเพิ่มเป็น 3,500 ห้อง ส่วนในต่างจังหวัดมีการจัดพื้นที่ไว้ 460 แห่ง สามารถรองรับได้ 13,000 คน ส่วนโรงพยาบาลสนามใน กทม.และปริมณฑลต้องจัดห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน (ICU) เพิ่มอีก 80 เตียง

ขณะที่การสำรองยาฟาวิราเวียร์มีการสั่งซื้อเข้ามาแล้ว 1.87 แสนเม็ด ใช้ไป 4.6 หมื่นเม็ด ที่เหลืออยู่ 1.4 แสนเม็ดเพียงพอแน่นอน ส่วนปัญหาหน้ากากอนามัยขณะนี้สถานการณ์คลี่คลาย โดยมีการผลิตหน้ากากผ้าแกจ่ายไปแล้ว 70 ล้านชิ้น จากกระทรวงมหาดไทย 50 ล้านชิ้น และกระทรวงอุตสาหกรรม 20 ล้านชิ้น

โฆษก ศบค.กล่าวว่า หากเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตแล้ว ประเทศอิตาลีอยู่ที่ 12.63% สหราชอาณาจักรอยู่ที่ 11.03% สเปนอยู่ที่ 9.92% ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 1.26% และมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเป็นอันดับที่ 44 ของโลก

ส่วนการใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ประเทศเยอรมนีอยู่ที่ 21.8% ของ GDP มาเลเซียอยู่ที่ 16.5% สเปนอยู่ที่ 16.1% สหราชอาณาจักรอยู่ที่ 15.8% ฝรั่งเศสอยู่ที่ 14.3% และไทยอยู่ที่ 12.0% ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อย เนื่องจากมีงบประมาณที่จำกัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ