พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อมด้วยปลัดกระทรวงกลาโหมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเหล่าทัพ เพื่อร่วมหารือรองรับการดูแลคนไทยจากต่างประเทศที่ทยอยเดินทางกลับอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้ามาตรการและระบบกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (State Quarantine) ที่กำหนด
สำหรับสถานการณ์ของการกักตัวควบคุมโรค ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการควบคุมโรค จำนวน 768 ราย ในพื้นที่พักรับรองสัตหีบ ของทหารเรือ, โรงเรียนการบินกำแพงแสน ของทหารอากาศ และโรงแรมอีก 4 แห่งใน กทม. เช่น The Patra, Elegant Airport, Ambassdor พร้อมทั้งหารือสรุปการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงกลาโหม, กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เพื่อเตรียมการระบบบริหารจัดการการกักตัวควบคุมโรค รองรับคนไทยจากต่างประเทศที่กำลังทยอยเดินทางกลับมาจำนวนมาก ทั้งด้านงานอำนวยการ ด้านการรักษาความปลอดภัย ด้านการควบคุมและป้องกันโรค ด้านการรักษาพยาบาล และด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยในบริเวณสถานที่ควบคุม
โดยกำหนดร่วมกันให้เร่งจัดหาและเตรียมโรงแรมของภาคเอกชนหลายแห่ง ทั้งใน กทม.และภูมิภาค ที่ประสงค์และมีความพร้อมด้านสาธารณสุข จำนวนอย่างต่ำกว่า 3,500 ห้อง รองรับการหมุนเวียนเข้าพักกักควบคุมโรคของคนไทยจากต่างประเทศจากทุกเที่ยวบิน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมโรงพยาบาล เพื่อจับคู่กับโรงแรมแต่ละแห่งรองรับกรณีมีผู้ป่วยเจ็บเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ หน่วยงานของแต่ละเหล่าทัพและตำรวจ ร่วมสนับสนุนจัดเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขดูแลรักษาพยาบาล รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ควบคุมของแต่ละโรงแรมตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องกันไป จนถึงการอำนวยความสะดวกส่งตัวกลับบ้าน
"ขอให้ร่วมกันทำความเข้าใจกับคนไทยที่เดินทางกลับ ได้ร่วมรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ตามมาตรการที่รัฐกำหนด และขอให้ครอบครัวของผู้ที่เข้ารับการกักตัวควบคุมโรคไม่ต้องกังวล โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จะร่วมกันดูแลและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน" พล.ท.คงชีพระบุ