COVID-19สธ.ออกคำแนะนำแนวปฏิบัติในช่วงเดือนรอมฎอน ลดความเสี่ยงโควิด-19 แพร่ระบาด

ข่าวทั่วไป Thursday April 16, 2020 15:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ส่งคำแนะนำในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงเดือนรอมฎอนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยยังมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นทุกพื้นที่

ดังนั้น กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศร่วมกันป้องกันและลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งจะเริ่มในห้วงระหว่างวันที่ 24 หรือ 25 เมษายน ถึงวันที่ 23 หรือ 24 พฤษภาคม 2563

สำหรับการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนเป็นหนึ่งในบทบัญญัติตามหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งจะงดเว้นการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม และการปฏิบัติตัวตามหลักศาสนา โดยเริ่มปฏิบัติทุกวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกดินเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวจะได้อยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อทั้งภายในครอบครัวและในชุมชน

โดยมีคำแนะนำในการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือสลามกันเท่านั้น

2.งดการไปร่วมละหมาดญะมาอะฮ์หรือละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด และปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด โดยแนะนำให้ปฏิบัติศาสนกิจภายในบ้าน

3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน และงดการแบ่งปันอาหารให้แก่กัน หากจำเป็นให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร และไม่จัดอาหารแบบใส่ถาดรวม (บุฟเฟต์) ให้แยกเป็นอาหารจานเดียว มีช้อนส้อมและแก้วน้ำเฉพาะของตนเอง และล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร

4.หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนเป็นจำนวนมาก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลให้สะอาดอยู่เสมอ

5.กรณีมีความจำเป็นต้องปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิด แนะนำให้เปิดหน้าต่างและผ้าม่านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก งดการใช้เครื่องปรับอากาศ และให้คัดกรองทุกคนก่อนเข้ามัสยิด หากมีอาการไข้ (อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส) ไอ เจ็บคอ แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดเข้าร่วมและแนะนำให้สังเกตอาการที่บ้าน

6.หากมีการสัมผัสบุคคลหรือไปสถานที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้าบ้าน แนะนำให้รีบทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำสระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้า

7.เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ หลังรับประทานอาหาร นอกจากจะเป็นข้อควรปฏิบัติในการถือศีลอดที่ถูกต้องแล้วยังช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำในสภาพอากาศร้อนด้วย

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรออกไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาข้างนอกบ้าน ให้ปฏิบัติศาสนกิจภายในบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จากสิ่งแวดล้อมภายนอก เพราะหากกลุ่มดังกล่าวได้รับเชื้อจะมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ