นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 15 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,826 คน จำนวนผู้ที่หายปวยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,352 คน กลับบ้านเพิ่มขึ้นอีก 244 คน รักษาตัวอยู่ในรพ. 425 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 49 คน
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทยวัย 58 อาชีพแม่บ้าน มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วน ประวัติสัมผัสลูกสาวเป็นผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ เริ่มป่วยด้วยอาการไอ มีไข้ เสมหะขาวเหลือง และมีน้ำมูก เข้ารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน กทม.เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.ผลตรวจยืนยันพบติดเชื้อโควิด-19 ขณะรักษาอาการทรุดลง เหนื่อยหอบ ถ่ายเหลว และไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิตลง
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 10 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย ทำอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 3 ราย เป็นพนักงานขาย ขนส่งสินค้า ทำงานกับนักท่องเที่ยว
"จากสถิติวันนี้ พบผู้ป่วย 15 ราย ลดลงจากวานนี้ที่ 19 ราย และในวันก่อนที่พบ 27 ราย เป็นความสำเร็จระหว่างทาง แต่ยังไม่จบสิ้น เนื่องจากการเผชิญวิกฤตสถานการณ์ไวรัสโคโรนานี้เป็นทั่วโลก ในสถานการณ์ที่ประเทศตัวเลขที่ลงมาต่ำถือว่าเป็นความสำเร็จที่ต้องภาคภูมิใจทั้งประเทศ แต่ภารกิจนี้ยังไม่เสร็จสิ้น ยังทอดยาวไปอีก ในบางทฤษฎีก็บอกว่าจะต้องอยู่กับสถานการณ์นี้เป็นเดือน หลาย ๆ เดือน แต่บางทฤษฎีบอกต้องเป็นปี เพราะฉะนั้นการลากยาวมีความสำคัญอย่างยิ่ง" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ขณะที่ผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้ง 2,826 ราย อยู่ในพื้นที่ กทม. มากที่สุด 1,451 ราย รองลงมาคือ ภูเก็ต 193 ราย นนทบุรี 152 ราย สมุทรปราการ 109 ราย ยะลา 95 ราย ปัตตานี 79 ราย ชลบุรี แต่หากติเป็นดังนี้ดตามอัตราป่วยประชากรแสนคน พบว่า ภูเก็ต เป็นอันดับ 1 คือ 46.69% อันดับ 2 กทม. 25.62% และอันดับ 3 ยะลา 19.28%
จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนยังคงมี 9 จังหวัด ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 14 วัน มี 36 จังหวัด โดยมีเพิ่ม 1 จังหวัด คือ นครราชสีมา แต่ลดหายไป 1 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะต้องไปสอบสวนโรคว่าเกิดขึ้นจากอะไร
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยืนยันว่า การจะยกเลิกมาตรการต่างๆ ตอนนี้ยังไม่มี แต่เป็นลักษณะผ่อนปรน เพราะสถานการณ์รอบประเทศยังมีการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก มีเพียงประเทศไทยที่สามารถควบคุมได้
"การจะผ่อนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเลขของกรมควบคุมโรครายงานมาที่ ศบค. และความจำเป็น เช่น ร้านค้า ถ้าจะเปิดก็ต้องมั่นใจว่าลูกค้าที่เข้ามาปลอดภัย ท่านต้องไม่เอาเชื้อไปติดเขา หรือเขาเอามาติดท่าน ก็ต้องป้องกันทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามอาจจะมีการทดลองในกลุ่มจังหวัด หรือบางพื้นที่ แต่ต้องรอฟังสิ่งต่างๆเหล่านี้จะมีความชัดเจนจากส่วนกลาง และลงไปสู่จังหวัดเพื่อให้นำไปปฏิบัติ ต้องรอฟังมติ ครม.และมติ ศบค. แถลง"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว