กรมชลฯ เร่งผลักดันโครงการบรรเทาวิกฤติภัยแล้ง หลังอ่างเก็บน้ำหลายแห่งมีปริมาณน้ำน้อย

นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานยังดำเนินกิจกรรมและการให้ความช่วยเหลือของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้งฯ ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักงานชลประทานที่ 3 เข้าติดตั้งเครื่องสูบ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณคลองแยงมุม เพื่อสูบน้ำเข้าแก้มลิงทุ่งครุ หมู่ที่ 10 ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร ที่ได้รับน้ำเพื่อทำการเพาะปลูกฤดูนาปี 2563 และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นต่อไป

2.โครงการชลประทานเลย สำนักงานชลประทานที่ 5 ได้เข้าช่วยเหลือบ้านน้อยสนามบิน หมู่ที่ 7 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดยการร้องขอความอนุเคราะห์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค โดยรถบรรทุกน้ำ 1 คัน จำนวน 6,000 ลิตรเพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำใช้การอุปโภคและบริโภคต่อไป

3.สำนักงานชลประทานที่ 12 ประสานงานกับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุกเพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง ที่ หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง หมู่ 1 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ และหมู่ 1 ต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคในเขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก

4.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี สำนักงานชลประทานที่ 14 สนับสนุนรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร สูบน้ำเพื่อเติมลงสระน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค, เลี้ยงปลา, รักษาระบบนิเวศภายในวัดเขาเต่า และเป็นแหล่งน้ำสำรองของชุมชนเขาเต่า ซึ่งขณะนี้กำลังประสบปัญหา ปริมาณน้ำเหลือน้อย, น้ำเน่าเสีย และปลาตาย ไม่สามารถนำน้ำในสระไปใช้ได้ ได้ดำเนินการช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งครั้งนี้ ด้วยการใช้รถบรรทุกน้ำเติมลงสระ จำนวน 15 เที่ยว เที่ยวละ 6,000 ลิตร รวมจำนวนทั้งสิ้น 90,000 ลิตร ณ สระน้ำวัดเขาเต่า ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

และ 5.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด-กระแสสินธุ์ สำนักงานชลประทานที่ 16 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาการส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร และดำเนินการแก้ไขปัญหาวางแผนก่อสร้างอาคารส่งน้ำในจุดที่ขาดแคลน

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เม.ย. 63) ว่า สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศจำนวน 447 แห่ง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 36,216 ล้าน ลบ.ม. (48% ของความจุอ่างฯ) ปริมาณน้ำใช้การได้ 12,528 ล้าน ลบ.ม. (24% ของความจุน้ำใช้การ)

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30% ของความจุอ่าง จำนวน 24 แห่ง คือ ภูมิพล สิริกิติ์ แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่กวงอุดมธารา กิ่วคอหมา แควน้อยบำรุงแดน แม่มอก ห้วยหลวง จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ลำแชะ ลำนางรอง สิรินธร ป่าสักชลสิทธิ์ ทับเสลา กระเสียว ขุนด่านปราการชล คลองสียัด บางพระ หนองปลาไหล และประแสร์

สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ) ปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,817 ล้าน ลบ.ม. (35% ของความจุอ่างฯ) เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 2,121 ล้าน ลบ.ม. (12% ของความจุน้ำใช้การ)

ส่วนผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2562/63 ทั้งประเทศ แผนการจัดสรรน้ำ 17,699 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 16,225 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 92 เจ้าพระยา แผนการจัดสรรน้ำ 4,500 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 4,363 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 97

สำหรับแผน-ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรังปี 2562/63 ในเขตชลประทาน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 เม.ย.63) ทั้งประเทศ แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง 2.31 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.21 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 182.08 ของแผนฯ เก็บเกี่ยวแล้ว 2.56 ล้านไร่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง – ล้านไร่ (รณรงค์งดทำนาต่อเนื่องฤดูแล้ง ปี 2562/63) เพาะปลูกแล้ว 1.98 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 1.75 ล้านไร่