นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขหลักเดียวต่อเนื่องและต่ำสุด ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,960 ราย ขณะที่มีผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้น 32 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,719 ราย โดยวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงอยู่ที่ 54 ราย และยังคงมีผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 187 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 6 รายนั้น ได้แก่ ชายไทยอายุ 64 ปีที่ติดเชื้อมาจากการไปตลาดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนอีก 5 รายมาจากมาตรการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนที่จังหวัดยะลา ทำให้ปัจจุบันมีจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา 42 จังหวัด, ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา 26 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายผู้ป่วยมาก่อนเลย 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง และ สตูล
ส่วนช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่ผ่านมาพบผู้กระทำผิดออกนอกเคหสถานและการชุมนุมมั่วสุมรวม 761 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 175 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนไป 62 ราย และดำเนินคดี 699 ราย โดยผู้กระทำผิดกรณีชุมนุมมั่วสุมส่วนใหญ่เพื่อเล่นการพนันซึ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูง
โฆษก ศบค.กล่าวว่า รู้สึกน่าเป็นห่วงจากการที่มีสถิติการเดินทางของประชาชนเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากประชาชนคลายความกังวลและสบายใจมากขึ้น โดยในช่วง 3 สัปดาห์วันที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13.5% จากวันที่ 16 เม.ย.63 ที่ 8 แสนคน เพิ่มเป็น 8.4 แสนคนเมื่อวันที่ 25 เม.ย.63 และเพิ่มเป็น 9.6 แสนคนเมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 นอกจากนี้ยังพบการเดินทางออกต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งขอให้ทุกคนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดหากมีความจำเป็นต้องเดินทาง แต่หากไม่มีความจำเป็นขอให้งดการเดินทาง และเมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดใดให้ปฏิบัติตามแนวทางที่จังหวัดนั้นกำหนด เพราะหากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้มีพื้นที่ที่ประชาชนจะออกไปเดินได้เพิ่มมากขึ้น และในระหว่างนี้ยังคงให้ยึดข้อกำหนดเดิมต่อเนื่องไป
สำหรับแนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการหลังมีการผ่อนปรนมาตรการอยู่ในกระบวรการพิจารณา คาดว่าจะประกาศออกมาในช่วง 1-2 วันนี้ แต่มีหลักการกว้าง 3 ประการ คือ 1.ต้องเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเท 2.ลดความแออัดหนาแน่น การเว้นระยะห่าง และ 3.ลดการสัมผัสใกล้ชิดกัน
"บางกิจกรรม เช่น การตัดผมคงไม่สามารถให้ยืนห่างกัน 1 เมตร แต่ต้องใช้เวลาสั้นที่สุด" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนการรับคนไทยตกค้างจากต่างประเทศในวันนี้จะมาจากประเทศสิงคโปร์ 165 คน ประเทศเนปาล 38 คน และในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) มาจากประเทศคาซัคสถาน 55 คน ประเทศเนเธอร์แลนด์ 35 คน และประเทศสหรัฐอาหารับเอมิเรตส์ 130 คน ซึ่งทุกคนจะนำตัวไปพักที่สถานกักตัวของรัฐ ซึ่งในช่วงวันที่ 4-30 เม.ย.ที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางกลับมาแล้ว 3,381 คน จาก 23 ประเทศ
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดในสัปดาห์นี้มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ต่ำสุดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา ขณะที่มีอัตราการรักษาหายสูง โดยมีผู้ที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 92% ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ดังนั้นขอให้ประชาชนยึดแนวทางปฏิบัติเรื่องสุขอนามัยอย่างเข้มงวด
สำหรับการกำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่สวมหน้ากากหรือการกักตัวผู้ที่เดินทางข้ามเขตจังหวัดนั้นขึ้นอยู่กับมาตรการที่บางจังหวัดกำหนดขึ้น แต่ในภาพรวมทั้งประเทศยังคงเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมือปฏิบัติเท่านั้น และสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านขณะนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่จึงขอให้ผู้ที่ต้องการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเพิ่มความระมัดระวังในการคัดกรองสุขภาพด้วย