COVID-19เลขา สมช.ชี้แจงมาตรการผ่อนปรน หากประเมินหลัง 14 วันตัวเลขสถิติดีขึ้นจะพิจารณาผ่อนปรนเพิ่มเติมในระยะต่อไป

ข่าวทั่วไป Saturday May 2, 2020 14:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงมาตรการผ่อนปรนในช่วงเดือนพ.ค.นี้ ยังต้องทำเป็นระยะๆ ว่า สามารถผ่อนปรนได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่ประชาชนต้องร่วมมือ ในระยะ 14 วัน แต่ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ก็พยายามผ่อนปรนให้มีการดำรงชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และก็คำนึงถึงด้านเศรษฐกิจด้วยประกอบกัน โดยมีการผ่อนปรนให้มีการเปิดร้านค้า ร้านอาหารในโรงแรม สนามบิน โรงพยาบาล ในร้านสะดวกซื้อ ห้ามเร่แผงลอย แต่ก็ยังต้องมีการรักษาระยะห่าง มีการตรวจวัดอุณหภูมิตามความเหมาะสม มีการทำความสะอาดพื้นผิวสถานประกอบการ มีเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโควิด-19

ในส่วนของห้างสรรพสิน ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ขายอาหารในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ร้านโทรศัพท์ ที่ทำการรัฐวิสาหกิจหรือรัฐบาลที่อยู่ในห้างนั้น ธนาคาร กรณี ร้านอาหารสามารถเปิดขายได แต่ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น ร้านค้าปลีก-ส่ง ตลาด ตลาดน้ำ ตลาดนัดเปิดได้ แต่ก็ต้องมีมาตรการทำความสะอาดพื้นผิว การรักษาระยะห่าง การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน ร้านเสริมสวย-ร้านแต่งผม เปิดได้แต่ต้องมีการกำกับด้วยข้อกำหนดที่ทำให้เชื่อมั่นแพร่ระบาดโรคจะไม่เกิดขึ้น อนุญาตให้ สระ ตัด ซอยผม แต่บริการอื่นไม่ว่าจะเป็นการทำสีผม เหตุผลคือไม่ต้องการให้ใช้เวลานานในการรับบริการเพราะจะทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อมากขึ้น ขณะเดียวกันทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการต้องใช้มาตรการที่ต้องบังคับ คือ ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ทำความสะอาดเครื่องมือ ทำความสะอาดพื้นผิว จัดการขยะ

ส่วนการผ่อนคลายอีกอัน คือ การออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เหตุผล การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เช่น เทนนิส กอล์ฟ เพราะการถ่ายเทอากาศทำได้สะดวก การติดเชื้อก็จะเกิดน้อย สวนสาธารณะก็เปิดได้ เช่นกัน เดิน-วิ่งได้ ปั่นจักรยานได้ ส่วนรำไทเก๊กทำได้ แต่ต้องรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย และห้ามไปรวมตัวกัน

ส่วนโรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม เปิดได้ แต่ต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการให้บริการ และยังไม่อนุญาตในการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีความเสี่ยง อย่างสถาบันเสริมความงาม ศัลยกรรม ยังห้ามเปิดต่อไปแต่อาจไปพิจารณาในระยะ 2 ระยะ 3 ต่อไปได้ ถ้าสถานการณ์ 14 วันจากนี้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนสถานบริการตัดขนสัตว์ ก็สามารถเปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด รักษาระยะห่าง วัดอุณหภูมิ จำกัดผู้เข้าใช้บริการ

"ระยะต่อไป ศบค.จะมีการประเมินหลัง 14 วัน ว่า สถานการณ์ดีขึ้นได้รับความร่วมมือจากประชาชนดีขึ้น สถิติผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมีน้อยลง หรือมีสิ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวเลขผู้ป่วยมีน้อยลงอย่งต่อเนื่องก็จะมีการพิจารณาเปิดผ่อนปรนระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ระยะที่ 4 จนครบต่อไปแต่ตามนโยบายท่านนายกฯ คือมีการประเมินและมีการเปิดอย่างระมัดระวังและอยู่บนมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหลัก และเรื่องความสะดวกสบาย เรื่องเศรษฐกิจก็จะเป็นเรื่องประกอบ"พล.อ.สมศักดิ์กล่าว

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พรุ่งนี้ (3 พ.ค.) สามารถเปิดขายได้ แต่ยังเป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่ากทม.หากพบมีความเสี่ยงติดเชื้อกลับมาอีก ก็สามารถสั่งปิดได้ วัตถุประสงค์ให้ซื้อกลับบ้านได้แต่ก็อย่าให้ไปถึงพบการมั่วสุมภายในบ้าน ต้องขอความร่วมมือทุกคนห้ามดื่มสุราที่ร้าน และ กลับมาที่บ้านก็ต้องพอสมควรซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะไปตรวจสอบหากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา แต่ในขั้นต้นนี้สามารถอนุญาตให้ทุกร้านที่ได้รับใบอนุญาตเดิมก็สามารถขายได้ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค เป็นต้นไป

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และประสานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับทราบ ถือปฏิบัติ และออกคำสั่งต่าง ๆ ตามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯ ทั้ง 3 ฉบับ โดยเคร่งครัด และให้สร้างการรับรู้มาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดแก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามคำสั่ง ศบค. ที่ 2/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ทั้งนี้ ในกรณีหากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาและมีความเห็นจะดำเนินการอื่นใดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 2 (7) ให้รายงาน ศบค.มท. ก่อนดำเนินการเพื่อรายงาน ศบค. พิจารณา ตลอดจนเป็นการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และให้จังหวัดประมวลผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมทั้งปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัด และความต้องการรับการสนับสนุน และรายงานให้ ศบค.มท. ทราบด้วย

ส่วนการเดินทางกลับจากของประชาชนจำนวนมากในช่วงนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องจากข้อกำหนดที่มีอยู่คือให้งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัด ส่วนบุคคลที่มีเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานประกอบตามแต่กรณีของการเดินทางนั้น ทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองของจุดต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยสรุปคือการเดินทางข้ามจังหวัดทุกคนจะต้องเจอการตรวจคัดกรอง ส่วนจะต้องกักตัว 14 วันหรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุผลและเป็นกรณีๆไป ขอย้ำว่ากลุ่มที่มาจากพื้นที่เสี่ยงหากมีการเดินทางต้องหลักฐานชัดเจน

"ขอให้ประชาชนได้โปรดเข้าใจและเห็นใจผู้ปฏิบัติประจำจุดตรวจจุดสกัด..จุดไหนทำให้ไม่สะดวก ต้องขออภัยและได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้วว่าให้เจ้าหน้าที่พูดจาด้วยความละมุนละม่อมในการชี้แจงทำความเข้าใจ"นายฉัตรชัย กล่าว

เลขา สมช. กล่าวเสริมว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ. ศบค.ก็ได้มีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม. และมีมติออกมาชัดเจนว่าในช่วงวันที่ 1 ถึงวันที่ 11 พ.ค.ซึ่งมีวันหยุดหลายวัน ห้ามข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจลาในช่วงนี้เพื่อกลับภูมิลำเนา ซึ่งมาตรการหลักๆ ที่ภาครัฐออกมาก็จำกัดไม่ให้ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาในห้วงนี้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็จะต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัดที่จะให้ลาโดยเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนจริงๆ นอกจากนั้น ก็จะไม่อนุญาตให้ลา และระหว่างทางก็จะเจอมาตรการที่เข้มข้นทำให้ไม่ได้รับความสะดวกสบายนักเพราะไม่ต้องการให้การแพร่ระบาดของโรคเกินไปจากขีดความสามารถที่จะควบคุมได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ