นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินในประเทศ 75% มาสมทบกับรายได้ของตัวเองอีก 25% เพื่อเป็นเงินลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ในปี 2563 จำนวน 6 แผนงาน ภายในกรอบวงเงินรวม 14,197 ล้านบาท โดยให้ทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นรายปีจนกว่าการดำเนินงานจะแล้วเสร็จ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับแผนงานดังกล่าว ประกอบด้วย 1.แผนงานปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพสถานีไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงระบบควบคุมและระบบป้องกันของสถานีไฟฟ้าในพื้นที่การไฟฟ้าทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ เพื่อความมั่นคงในระบบการจ่ายไฟ ลดปัญหาไฟดับ และการสูญเสียโอกาสในการจ่ายไฟของสถานีไฟฟ้า และปรับใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่มีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามมาตรฐาน IEC 61850* เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบควบคุมและระบบป้องกันสถานีไฟฟ้า รวมทั้งรองรับโครงการ Smart Grid ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ.2563-2565 เช่น ปรับปรุงระบบควบคุมและระบบป้องกันของสถานีไฟฟ้าจำนวน 26 สถานีไฟฟ้า, เปลี่ยนระบบป้องกันทดแทนที่ชำรุดและเสื่อมสภาพ จำนวน 31 สถานีไฟฟ้า
2.แผนงานย้ายแนวและเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง ปี 2653-2570 เพื่อย้ายแนวระบบจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้าของ กฟภ. ตามแผนงานก่อสร้างขยายถนนและการคมนาคมของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และหน่วยงานราชการอื่น ๆ โดยพิจารณาแผนงานตามที่การไฟฟ้าเขต (กฟข.) จัดส่งแผนงานเพื่อเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า โดยจะดำเนินการในพื้นที่ให้บริการของ กฟภ. จำนวน 12 กฟข. ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ.2563-2570 เช่น งานย้ายแนวระบบจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้า งานเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์ระบบจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้าที่ชำรุดและเสื่อมสภาพจากการใช้งาน (การเปลี่ยนลูกถ้วยและสายไฟฟ้า) เป็นต้น
3.แผนงานปฏิบัติการดิจิทัลด้านระบบงานและแพลตฟอร์ม เพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของระบบจำหน่ายและบริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ.2563-2567 เช่น พัฒนาด้านโครงข่ายระบบจำหน่ายให้สามารถสร้างการบูรณาการด้านข้อมูลและการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานตั้งแต่วางแผน บริหาร โครงการก่อสร้าง รวมถึงการปฏิบัติและบำรุงรักษา
4.แผนงานปฏิบัติการดิจิทัลด้านสื่อสารและโทรคมนาคมของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารของ กฟภ. ให้มีช่องสัญญาณ (Bandwidth) เพียงพอต่อการใช้งาน, เพื่อเพิ่มความพร้อมในการให้บริการ (Service Availability), เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารจัดการเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความรวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของสายงานต่าง ๆ ของ กฟภ. เป็นต้น ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ.2563-2565 เช่น จัดซื้อพร้อมติดตั้งอุปกรณ์โครงข่าย IP Access Network (ส่วนต่อขยาย) ขยายโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ระบบวิทยุสื่อสาร แบบดิจิตอล เป็นต้น
5.แผนงานการใช้พื้นที่สำนักงานใหญ่ กฟภ.ดำเนินการตามแผนแม่บท Phase B : เพื่อดำเนินการตามแผนแม่บทการใช้พื้นที่สำนักงานใหญ่ กฟภ. Phase B โดยการยกระดับภาพลักษณ์โดยรวมขององค์กร และการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด [เช่น การย้ายโรงเรียนช่าง กฟภ. ไปอยู่ที่ กฟภ. นครชัยศรี และการย้ายกองมิเตอร์ (กมต.) กองหม้อแปลง (กมป.) ไปอยู่ที่ กฟภ. ลาดหลุมแก้ว เป็นต้น จึงจำเป็นต้องปรับปรุงพื้นที่และออกแบบก่อสร้างอาคารเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าว] ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ. 2563-2569 การดำเนินการ เช่น การจ้างออกแบบและก่อสร้างอาคารบนพื้นที่ว่างของ กฟภ. นครชัยศรี กฟภ. ลาดหลุมแก้ว การจ้างออกแบบและปรับปรุงอาคาร 9 สำนักงานใหญ่ กฟภ. เป็นต้น
6.แผนงานจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทดสอบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อปรับปรุงและเพิ่มขีดความสามารถการทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าของ กฟภ. ให้รองรับกระบวนการจัดซื้อและตรวจรับการบริการทดสอบเพื่อรับรองผลิตภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพอุปกรณ์ไฟฟ้า การทดสอบเพื่องานวิจัยและนวัตกรรม, เพื่อสร้างศูนย์ฯ ที่มีระบบห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 จำนวน 5 แห่ง ระยะเวลาดำเนินการ พ.ศ.2563-2568 โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทดสอบส่วนกลาง จำนวน 1 แห่ง ในพื้นที่ว่างของศูนย์ฝึกปฏิบัติการไฟฟ้าแรงสูง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และศูนย์ปฏิบัติการทดสอบส่วนภูมิภาค (1-4) ในพื้นที่ของแต่ละ กฟข. ตามพื้นที่ของคลังพัสดุ 4 ภาค จำนวน 4 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้จะเป็นการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการพร้อมจัดหาเครื่องมือทดสอบให้มีความสามารถในการทดสอบเพื่อการตรวจรับอุปกรณ์ไฟฟ้า