COVID-19คณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ศบค.ย้ำมาตรการผ่อนปรนต้องเป็นขั้นตอน แต่เข้มข้น เพื่อให้ศก.เดินหน้าควบคู่สุขภาพ

ข่าวทั่วไป Friday May 8, 2020 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวภายหลังประชุมนัดแรกว่า ในขณะนี้รัฐบาลกำลังเข้าสู่ระยะผ่อนปรนมาตรการต่างๆ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่กลับมาระบาดในระยะที่ 2 ได้ เพราะฉะนั้นการ์ดห้ามตกโดยเด็ดขาด เพราะหากเกิดเหตุการณ์ Super Spreader ซึ่งมีตัวอย่างเช่นในประเทศสิงค์โปร์แล้วควบคุมไม่ได้จะส่งผลเสียทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

สิ่งสำคัญจำเป็นต้องเดินทางสายกลาง คือ ยังต้องดูแลด้านสุขภาพ ขณะเดียวกันการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ละเลยไม่ได้ ซึ่งมาตรการรัฐที่ออกมาต้องเป็นขั้นเป็นตอน ต้องช่วยสนับสนุนให้กลไกเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ทั้งภาคธุรกิจและภาคบริการ และหากทุกอย่างไปในทิศทางที่ดีก็สามารถผ่อนปรนได้มากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับกรณีเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าในวันที่ 17 พ.ค.นี้ นพ.จรัส มองว่า ต้องมีการกำหนดมาตรการที่ชัดเจนที่เป็นข้อปฏิบัติ และสิ่งสำคัญต้องได้รับความมือจากจากประชาชนในการดูแลสุขภาพ หากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีก็สามารถเปิดได้ และจำเป็นต้องติดตามว่าจากการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ จนถึงวันที่ 17 พ.ค.จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นอย่างไร เพื่อนำมาประเมินว่าควรจะผ่อนปรนเพิ่มเติมอีกหรือไม่

"ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในสภาพที่ต้องช่วยกันระมัดระวัง ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่า มาตรการที่ใช้ได้ผลดี แต่ว่ามาตรการนั้นปิดเต็มที่ ทำให้กระบวนการด้านเศรษฐกิจอื่นของแต่ละบุคคลก็ดี ของประเทศก็ดีต้องหยุดไป ซึ่งหยุดต่อไปอีกนานไม่ได้ ก็ต้องหาจุดที่พอเหมาะ" นพ.จรัส กล่าว

ประธานคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคมฯ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษาโรค แต่มีการศึกษาวัคซีน 70-80 โครงการจากทั่วโลก แต่หากจะเห็นผลยังใช้เวลาอีกนาน ซึ่งคาดว่ากว่าจะผลิตวัคซีนได้น่าจะเป็นช่วงเดือน มิ.ย.64 หรืออาจจะไปถึงสิ้นปี 64 จึงยังต้องเผชิญกับโรคโควิด-19 ไปถึงสิ้นปี 64 ดังนั้นการกำหนดมาตรการในช่วงที่ยังมีการระบาดต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ และต้องมองไปถึงว่า หากโรคโควิดหายไปแล้วจำเป็นต้องกำหนดมาตรการใดบ้าง

"คณะที่ปรึกษาพยายามดูว่าคำตอบที่เกิดขึ้น คำตอบใหญ่หลังจากเลิกโควิดไปแล้ว ประเทศเราควรเป็นอย่างไร ที่เขาเรียกว่า New Normal เป็นอย่างไร มันคงไม่กลับไปเป็นแบบปี 61,62 แต่ระยะอีก 1 ปีครึ่งข้างหน้าต้องทำอย่างไร ซึ่งมีทั้งคำตอบใหญ่และคำตอบเล็ก ซึ่งคำตอบเล็กบางคำตอบออกได้เลย คณะที่ปรึกษาฯ จึงเห็นว่า เราน่าจะมีข้อเสนอแนะภายใน 1-3 เดือนข้างหน้าไปก่อนให้ใช้ประโยชน์ได้ แต่คำตอบที่ต้องใช้ใน 2 ปีนี้เป็นเรื่องใหญ่" นพ.จรัส กล่าว

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ จะเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลทุกด้านเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งในวันจันทร์หน้าจะเชิญนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ มาให้ข้อมูลด้านดิจิทัลต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ